ค่าที่ควรติดตามมากที่สุดคือ CEA เพราะมันเป็น Monitor ที่มีความหมายมากเพราะขณะนี้มันสูงกว่าปกติเล็กน้อย (ค่าปกติไม่เกิน 3.5) แสดงว่ายังมีเซลล์มะเร็งอยู่ในบริเวณเดิมค่อนข้างมากเพียงแต่มันยังไม่สามารถมีกำลังมากพอในการขยายตัวเนื่องจากภูมิต้านทานคุณแม่ของคุณแข็งแรงกว่า แต่ก็อย่านิ่งนอนใจควรลดค่า CEA ลงให้ต่ำกว่า 3.5 ยิ่งต่ำกว่านี้มากเท่าใดก็หมายความว่าห่างไกลมะเร็งมากเท่านั้น

มีข้อปฏิบัติขอแนะนำดังนี้
1. อยากให้เอาอาหารทดแทนของผมชื่อ "นูรี" ไปชงกับน้ำเย็น 250 cc. กินแทนอาหารวันละ 2 มื้อเช้าเย็นเพื่อฟื้นฟูภูมิต้านทาน ฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ขับสารก่อมะเร็ง ปรับสมดุลให้ระบบชีวิต
2. มื้อกลางวันกินข้าวกล้อง กับข้าวได้แก่ เห็ เต้าหู้ ผัก และเนื้อปลา งด หมู ไก่ เนื้อวัว และอาหารทะเลไว้ก่อน ส้วนกับข้าวให้ปรุงรสอ่อนๆ
3. กินผลไม้ที่หวานน้อยแทนขนม และของขบเคี้ยวที่ทำจากแป้ง น้ำตาล เกลือ รวมทั้งงดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล น้ำผึ้งทุกชนิด ให้ดื่มน้ำสะอาด น้ำขิง หรือน้ำสมุนไพรที่เราต้มเอง
4. หายใจเข้าลึก หายใจออกหมดปอดอย่างช้าๆ อย่างน้อยตอนเช้า 20 ครั้ง ตอนเย็นอีก 20 ครั้ง ถ้ายิ่งมีสติรู้ลมหายใจเข้าออกลึกและช้าแบบนี้ทั้งวันจะเป็นสิ่งวิเศษที่สุด ถือว่าทำสมาธิไปในตัว ได้ทั้งอ๊อกซิเจนและได้ทั้งสมาธิทำให้ภูมิต้านทานแข็งแรง
5. ห้ามเครียด อย่าคิดมาก อย่าขี้โมโห อย่าขี้บ่น หรือมองใครๆในแง่ร้าย ต้องฝึกมีเมตตา มองคนในแง่ที่ดี ให้อภัย เพื่อให้จิตล่มเย็น
6. ออกกำลังกายเพื่อให้ชีพจรเต้นเร็วขึ้น ถ้าอายุ 60-70 ควรให้ชีพจรเต้น 120 ครั้ง/นาทีนานต่อเนื่องวันละ 30 นาที

สิ่งที่เซลล์มะเร็งกลัวที่สุดคือภาวะความเป็นด่าง และภาวะที่มีอ๊อกซิเจนสูง ทั้ง 6 ข้อที่ให้ปฏิบัติเป็นการสร้างทั้ง 2 สภาวะให้เกิดขึ้นแล้วเซลล์มะเร็งจะเติบโตไม่ได้ โดยติดตามผล CEA และ CA19-9 ไว้ทุกๆ 3-6 เดือน

ส่วนค่าCA19-9 นั้นอยู่ในระดับปกติ จึงไม่สนับสนุนให้ค่า CEA สูงขึ้นได้ง่าย และยังบ่งชี้ถึงไม่มีภาวะมะเร็งในลำไส้ใหญ่ตลอดไปถึงช่องทวารหนักได้อีกด้วยครับ

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม โทรมาที่ 081-3410494 เวลา 9.00-18.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุดครับ.....ขอขอบคุณ