ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : กินฟลาวาซอย
ผู้ตั้งคำถาม : อีฟ โพสต์เมื่อ 8/29/2013 : 1:41:25 PM
ที่ท่านแนะน้ำให้อีฟกิน "ธารแธน" อีฟลองศึกษาดูแล้ว ดีมากๆเลยคะ แต่ว่าถ้าอีฟจะกิน "ฟลาวาซอย"ขององค์การเภสัชฯ แทนได้หรือป่าวคะ เพราะทราบว่า ผลิตจากถั่วเหลือง เป็นเอสโตรเจนธรรมชาติ สามารถช่วยปรับระดับฮอร์โมนได้ แล้วถ้ากินได้ อีฟควรกินอย่างไรดีคะ เวลาไหนบ้าง...ขอบคุณมากๆนะคะที่แนะนำสิ่งดีดีให้
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 8/29/2013 : 8:40:14 PM
คุณเข้าใจคำว่าเอสโตรเจนจากถั่วเหลืองผิดนะครับ และผิดเหมือนกับที่บรรดาคุณหมอทั้งหลายเข้าใจ จึงขออธิบายให้เข้าใจถูกต้องดังนี้
- เอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนที่แสดงความเป็นเพศหญิงที่ผลิตจากรังไข่มีหน้าที่หลายอย่างๆที่ทุกคนเข้าใจ และถ้าฮอร์โมนตัวนี้มีเข้มข้นเกินความจำเป็นก็อาจเป็นต้นเหตุของโรคได้ เช่น มะเร็ง และเมื่อสตรีหมดประจำเดือนรังไข่ก็จะผลิตเอสโตรเจนลดลงทำให้กระดูกสลายตัวเร็วขึ้น มีภาวะความเป็นหญิงลดลง ฯลฯ อีกมากมาย
- ในถั่วเหลืองมีสาร Phyto Chemical หรือเรียกว่า "พฤกษเคมี" ทำหน้าที่คล้ายเอสโตรเจนแต่ไม่ใช่เอสโตรเจนเรียกว่า Isoflavones ที่องค์การเภสัชสกัดออกมาเรียกว่า Flavasoy ซึ่งต้องทำความเข้าใจให้ดีๆว่ามันไม่ใช่เอสโตรเจน หรือจะเรียกว่าเอสโตรเจนธรรมชาติก็ไม่ใช่อีกเช่นเดียวกัน จะเรียกอย่างถูกต้องได้ว่า "ทำหน้าที่คล้ายหรือแทนเอสโตรเจนได้แต่ไม่ใช่เอสโตรเจน" ดังนั้น Flavasoy หรือถั่วเหลืองจึงไม่ทำให้เป็นมะเร็งอย่างที่คนทั่วไปหรือหมอบางคนเข้าใจนี่คือสิ่งที่แม้กระทั่งหมอยังเข้าใจผิดเป็นส่วนใหญ่จึงไปงดไม่ให้คนไข้มะเร็งกินถั่วเหลืองซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเลยและยังทำให้คนไข้มะเร็งเสียโอกาสที่ดีเป็นอย่างยิ่งด้วย

คนไข้มะเร็งระยะแพร่กระจายที่เข้ามาพบที่ศูนย์ซีเกรนของเราและปฏิบัติตามแผนโภชนาการนั้นกินถั่วเหลืองซึ่งเป็นส่วนผสมของอาหารทดแทนทุกคนครับ และคนไข้ทุกคนมีสุขภาพและอาการดีขึ้นทุกคนด้วย แสดงให้เห็นว่าการกินถั่วเหลืองที่มีสาร Isoflavones นั้นเป็นส่วนหนึ่งในขบวนการบำบัดและสามารถควบคุมมะเร็งที่ได้ผล

ดังนั้นจะทาน Flavasoy ก็สามารถทานได้อย่างปลอดภัยไม่มีสิ่งตกค้าง แต่มาทดแทน "ธารแธน" ไม่ได้ครับเพราะ "ธารแธน" เป็นอาหารทดแทนที่ต้องทานแทนอาหาร แต่ Flavasoy เป็นอาหารเสริม มันคนละเรื่องกันและทานร่วมกันได้ครับ

ธารแธนควรทานแทนอาหารวันละ 2 มื้อ (2 ซอง) ส่วน Flavasoy ให้ทานหลังอาหารตามที่บ่งข้างขวดครับ....ขอขอบคุณ