ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : การจำลองการย่อย
ผู้ตั้งคำถาม : สุนิดา โพสต์เมื่อ 1/24/2013 : 2:39:54 PM
The bioaccessibility of iron was determined using the procedure
of Luten et al. (1996), with suitable modifications. The ground samples
were subjected to simulated gastric digestion by incubation
with pepsin (pH 2.0) at 37 C for 2 h. Titratable acidity was measured
in an aliquot of the gastric digest, by adjusting the pH to
7.5 with 0.2 M sodium hydroxide in the presence of pancreatin–
bile extract mixture. Titratable acidity was defined as the amount
of 0.2 M sodium hydroxide required to attain a pH of 7.5. This
was followed by simulated intestinal digestion. Segments of dialysis
tubings with a molecular mass cut off of 10 kDa containing
25 ml sodium bicarbonate solution, which is equivalent in moles
to the titratable acidity determined as above, were placed in Erlenmeyer
flasks containing aliquots of the gastric digest and incubated
at 37 C in a shaking water bath for 30 min or longer until the pH
reached 5.0. The pancreatin–bile mixture was then added and
incubation was continued for 3 h or longer until the pH of the digest
reached 7.0. Five percent nitric acid was then added to the
dialysate, centrifuged at 10,000 rpm for 15 min and filtered
through Whatman No. 42 filter paper. Iron and zinc present in
the dialysate, which represents the bioaccessible fraction, were
analysed by atomic absorption spectrometry.
มันจำลองยังไงคะคุณหมอ
หนูจะนำไปทำรายงานแต่ไม่เข้าใจวิธีการจำลองและการดูดซึมค่ะ
ขอบคุณค่า
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 1/24/2013 : 9:42:26 PM
มันเป็นการจำลองระบบย่อยอาหารจากน้ำย่อย pepsin ในกระเพาะอาหารที่มี่ค่าความเป็นกรดสูงที่ pH=2 ณ.อุณหภูมิในร่างกายที่ 37 องศาC ย่อยอาหาร (ซึ่งไม่รู้ว่าอาหารคืออะไร) 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นอาหารเคลื่อนเข้าสู่ลำไส้เล็กแล้วเปลี่ยนจากความเป็นกรดสูงมาเป็นด่าง (เพราะน้ำย่อยในลำไส้มีฤทธิ์เป็นด่าง) จำลองน้ำย่อยที่เป็นด่างโดยใช้โซเดียมไฮดร๊อกไซด์ กับโซเดี่ยมไบคาร์บอเนต 25 cc. ด้วยการ tritrate คุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ 37 องศาC บน water bath นาน 30 นาทีหรือนานกว่านั้นจน pH ลดลงเหลือ 5.0 แล้วทิ้งไว้อีก 3 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้น ซึ่งเสมือนเป็นการย่อยโดยน้ำย่อยจากถุงน้ำดีที่ทำให้ pH เพิ่มความเป็นกลางที่ 7.0 ใส่กรดไนตริกความเข้มข้น 5% แล้วปั่นด้วยเครื่อง centrifuged ที่ 10,000 รอบ/นาที นาน 15 วินาทีแล้วกรองด้วยกระดาษกรองเบอร์ 42 จะได้ธารตุเหล็กและสังกะสีติดอยู่ที่กระดาษกรองซึ่งเอาไปตรวจสอบได้ด้วยเครื่อง spectrometer

ทั้งหมดเป็นกระบวนการย่อยอาหารที่จำลองทำในห้องปฏิบัติการจะเกิดปฏิกริยาเคมีชนิดอนินทรีย์เคมีเมื่ออาหารเจอกรดเจอด่างตั้งแต่กระเพาะอาหารจนถึงลำไส้เล็กที่ยาวนับ 10 ฟุตทำให้โมเลกุลของอาหารเปลี่ยนขนาดเล็กลงจนได้เป็นสารอาหารที่ดูดซึมเข้าไปใช้ในร่างกายของเรานั่นเอง ซึ่งผมเข้าใจว่าที่ได้เหล็กและสังกะสีที่ end point นั้นก็คือองค์ประกอบของกากอาหารที่ต้องขับทิ้งนั่นเอง

ไม่ทราบว่าถูกตามวัตถุประสงค์หรือเปล่า ถ้าผิดพลาดอะไรต้องขออภัยด้วยเพราะไม่ได้อ่าน direction ทางเคมีอย่างนี้มา 40 กว่าปีแล้วครับ.....ขอขอบคุณ