ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : โรค Lichen Planus
ผู้ตั้งคำถาม : ปลายเหตุ โพสต์เมื่อ 1/24/2012 : 10:33:01 AM
โรค Lichen Planus เกิดจากอะไร จะต้องปฎิบัติตัวหรือรักษาอย่างไร ผลตรวจสุขภาพประจำปีพบว่าความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ขาวต่ำกว่าปกติ WBC = 2600 จะเกี่ยวกับ โรค Lichen Planus ที่เป็นหรือไม่ และจะต้องรักษาอย่างไร
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 1/24/2012 : 7:52:17 PM
โรคนี้ส่วนมากเกิดจากร่างกายได้รับสารพิษจากโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท แค๊ตเมี่ยม เป็นต้น อย่างคนที่จัดฟันมาด้วยวัสดุที่ไม่มีคุณภาพที่ทำจากอะมัลกัมที่มีส่วนผสมของตะกั่วหรือปรอทมาก จะทำให้เกิดแผลในช่องปาก เกิดฝ้าขาวตามลิ้น หรือกระพุ่งแก้ม หรือบางคนทำงานเกี่ยวกับโลหะหนักเป็นประจำ อาจเกิดอาการทางผิวหนัง เช่น ผิวหนังเป็นจุดสีม่วง สีแดง ทั่วตัวและใบหน้า

อาการเหล่านี้ส่งผลทำลายระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานช้าลง จึงเกิดอาการแทรกซ้อนได้ง่าย ติดเชื้อง่ายและลุกลามไปเป็นโรคอื่นๆได้ง่ายด้วย

ดังนั้นพยายามหลีกเลี่ยงสารโลหะหนักทั้งหลาย อยู่ในที่ที่ถ่ายเทอากาศได้ดี อยู่ห่างจากโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะโรงงานแบตเตอรี่ โรงงานเกี่ยวกับโลหะ เป็นต้น การจัดฟันตามแฟชั่นถือเป็นจุดเสี่ยงที่อันตรายที่ทำให้เป็นโรคนี้ได้ง่ายๆ และสามารถลุกลามเป็นมะเร็งในช่องปากได้ด้วย

เม็ดเลือดขาวอยู่ที่ 2600 คงไม่เกี่ยวอะไรกับโรค Lichen Planus แต่ประการใด เป็นเพียงระบบภูมิคุ้มกันรักษาระดับปริมาณที่ค่อนข้างต่ำเพราะคุณไม่มีอาการติดเชื้อ เป็นหวัดอะไร การตรวจ WBC อย่างเดียวไม่เพียงพอ ควรต้องตรวจระดับของชนิดเม็ดเลือดขาวแต่ละชนิดด้วยว่าปกติหรือไม่ เช่น Lymphocyte Monocyte Eosinophil Basophil เป็นต้น ถ้าค่าตัวเลขของเม็ดเลือดขาวเหล่านี้ปกติในขณะที่ WBC แสดงผลค่อนข้างต่ำ ก็ถือว่าระบบภูมิคุ้มกันของคุณทำงานปกติ

ในกรณีเป็นโรค Lichen Planus คุณต้องหาต้นเหตุของโรคให้ได้ก่อนว่าเกิดจากวัตถุสิ่งใด แล้วพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อการรักษาที่ถูกต้องครับ.....ขอขอบคุณ