ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : การทานยาลดคลอเรสเตอรอล
ผู้ตั้งคำถาม : จุฑามาศ รักสุขภาพ โพสต์เมื่อ 10/29/2011 : 10:32:36 PM
อายุ 50 ปี เพศหญิง รับราชการ (ไม่ออกกำลังกาย) ได้ตรวจสุขภาพแล้วพบว่า คลอเรสเตอรอล 270 จึงได้มาพบแพทย์ และได้ให้ทานยา Bestatin ซึ่งตอนแรกให้ทานขนาด 10 mg ทานมาได้ 3 เดือน ผลการตรวจเลือด ลดลงเหลือ 180 และปัจจุบันเดือนที่4 ได้ให้ทานเพิ่มเป็น 20 mg จึงขอเรียนถามว่า ยาลดคลอเรสเตอรอล Bestatin 20 mg กับ Lipitor 20 mg Atorvastatin (crystalline form) ใฃ้แทนกันได้หรือไม่คะ มีข้อดี ข้อเสียต่างกันอย่างไร และทั้ง 2 ตัวยา จำเป็นต้องทานตลอดไปหรือไม่ และมีผลต่อร่างกายหรือไม่ อย่างไรคะ
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 10/30/2011 : 8:22:32 AM
ต้องขออภัยที่ผมไม่มีความรู้เรื่องคุณสมบัติของยาต่างๆดีพอ แต่ในฐานะนักธรรมชาติบำบัดและเป็นนักเคมี รู้ว่าการกินยารักษาโรคทุกชนิดร่างกายจะได้รับผลข้างเคียงจากยาเสมอ กินยามากก็จะได้รับผลข้างเคียงมากตามส่วน ผลข้างเคียงดังกล่าวส่วนใหญ่จะไปกระทบกับการทำงานของตับและไต จะเห็นได้ง่ายๆว่าคนที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานเรื้อรัง ซึ่งส่วนใหญมักกินยาลดไขมันและลดความดันด้วย สุดท้ายจะจบลงที่เป็นโรคไตวายและตับอักเสบเรื้อรังเสมอ

คุณจุฑามาศมีคอเลสเตอร์รอลสูง 270 ถ้าตามวิธีการบำบัดของผมจะให้ควบคุมอารมณ์เป็นอันดับแรกเพราะเรารู้ว่าการที่คอเลสเตอร์รอลสูงนั้นเกิดจากตับสร้างไขมันตัวนี้ขึ้นมาเพราะถูกกระตุ้นจากอารมณ์ 70% และเกิดจากอาหาร 30% ดังนั้นถ้าคุณให้ความสำคัญกับอารมณ์ ควบคุมดูแลให้ดีหรือควบคุมความเครียดความกังวลได้ หรือถ้าเป็นคนทำอะไรเร็ว พูดเร็ว คิดเร็ว ก็เพียงลดพฤติกรรมเหล่านี้ให้ช้าลงตับก็จะสร้างไขมันตัวนี้ลดลงอย่างช้าๆโดยไม่จำเป็นต้องกินยาครับ และที่ไขมันคุณสูง 270 ก็ไม่ใช่ระดับที่มากมายอะไรนัก ค่อยๆลดลงตามพฤติกรรมของอารมณ์ก็สามารถทำได้ไม่ยาก แต่คุณใช้วิธีพึ่งยาจนไขมันลดลงเหลือ 180 ก็อยู่ในระดับที่ปกติแล้วคงไม่จำเป็นต้องขวนขวายกินยาอะไรอีก นอกจากคุณไม่ควบคุมพฤติกรรมของอารมณ์ปล่อยให้มันคิดไปตามเรื่องก็คงจะยากในการควบคุมไขมันด้วยอารมณ์อย่างที่ผมบอก อีกประการหนึ่งคือการออกกำลังกายถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งแต่คุณไม่ทำ ก็จะเป็นความยากอีกประการหนึ่งในการลดไขมันด้วยวิธีธรรมชาติซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด

ปัญหาเรื่องไขมันของคุณไม่ซีเรียสอะไรมาก เพียงแต่ดูแลเรื่องอารมณ์และออกกำลังกายให้เหมาะสมปัญหานี้ก็จะลดลงและหายไปได้ไม่ยาก แต่ถ้าคุณไม่ทำหรือทำไม่ได้มันก็จะกลายเป็นโรคของเวรกรรมซึ่งผมถือว่าชีวิตเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งคุณต้องเลือกเองว่าจะเดินในวิถีทางไหนครับ.....ขอขอบคุณ