ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : มะเร็งลำใส้แพร่กระจายไปที่ตับ
ผู้ตั้งคำถาม : สุนันท์ โพสต์เมื่อ 7/25/2011 : 1:23:49 PM
เรียน อาจารย์ณัฐวัฒน์ที่นับถือ
เนื่องจากเมื่อ 3ปีที่แล้ว(มิถุนายน51)คุณแม่(อายุ 80 ปี)ตรวจพบมะเร็งลำใส้ได้ทำการฉายแสง-ผ่าตัดและเคมีบำบัดครบเมื่อธันวาคม 51ใช้ชีวิตปกติ 9 เดือน(ตรวจเลือดและเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ทุก3เดือน)ตุลาคม 52พบมะเร็งที่กลางตับให้เคมีบำบัดอีก 12 ครั้งระหว่างให้เคมีก็ตรวจเลือดและเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ทุก3เดือน(ครบกันยายน53)อีก3เดือน(มกราคม54)พบว่ามันโตขึ้นเร็วมาก คุณหมอเกรงว่าถ้าคีโมอีกรอบ คนไข้จะรับไม่ไหวเพราะอายุมากผลข้างเคียงจะเยอะมาก ให้ลูกๆ(5คน)ปรึกษากันว่าจะตัดสินใจอย่างไร
สุดท้ายเราให้คนไข้(คุณแม่)เป็นผู้ตัดสินใจในวิธีการรักษา คุณแม่ยืนยันจะรักษากับคุณหมอท่านเดิมต่อไม่ไปรักษาด้วยวิธีอื่น เริ่มคีโม2/6/54 ครั้งที่2 23/6/54
ครั้งที่3 14/7/54 คุณหมอนัด CT 1/8/54เพื่อดูผลว่าตอบสนองกับยาที่ให้หรือเปล่า และนัดคีโม4/8/54 และทุก 3 สัปดาห์จนครบ 8 ครั้ง ความคาดหวังในการรักษาขอเพียงให้มันหยุดโต และ ขอให้คุณแม่มีชีวิตอยู่กับลูกๆหลานๆให้นานที่สุดอย่างปกติสุขไม่เจ็บปวดทรมารในระยะสุดท้ายของชีวิต
ต้องกราบเรียนอาจารย์ว่าพวกเราดูแลท่านเป็นอย่างดี และคุณแม่เป็นคนเข้มแข็งทั้งกำลังกายกำลังใจดีมาก ท่านเป็นคนไข้ที่ดีปฏิบัติตัวตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งคัด
ตลอดระหว่างการรักษา คุณแม่ทาน สปอร์เห็ดหลินจือแตกตัวสกัด(Compound Ganoderma Lucidum Broken Spore Capsule)วันละ 6 เม็ด (2เม็ดx3ครั้งก่อนอาหาร)แต่ช่วงให้คีโม จะทาน วันละๅ18 เม็ด (6เม็ดx3ครั้งก่อนอาหาร)เริ่ม คีโมรอบที่3(2/6/54)เปลี่ยนมาทานน้ำมันสกัดจากสปอร์เห็ดหลินจือ ( Ganoderm Lucidum Spore Oil Capsule) วันละ 6 เม็ด (2เม็ดx3ครั้งก่อนอาหาร)จะทานพร้อมกับวิตามิน ไบโอ ซี 1000mg(BLACMORES)ผลเลือดเกือบจะปกติและให้คีโมได้ทุกครั้งตามแพทย์นัด ผลข้างเคียงหลังจากให้คีโมคุณแม่จะน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับคนไข้อื่น คือคุณแม่จะมีอาการคลื่นไส้ ถ่ายท้อง อยู่2-3วันหลังจากนั้นจะทานได้เป็นปกติ แต่ระยะ 3-4 วันนี้ท่านบ่นท้อแท้ ใจคอไม่ค่อยดี ทานอาหารได้น้อยลงกว่าปกติ แน่นท้อง ดิฉันเริ่มกังวลใจ จึงค้นหา โภชนาการบำบัดกับการรักษาโรดมะเร็งระยะสุดท้าย มาพบwww.อาจารย์ จึงขอรบกวนเรียนปรึกษา การรับประทานอาหารธัญพืชปรุงพิเศษ วิธีปฏิบัติตัวของผู้ป่วยและผู้ดูแลควรจะปฏิบัติอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ป่วย
ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
สุนันท์
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 7/25/2011 : 6:22:12 PM
เสียดายที่คุณไม่ได้พบผมเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ยิ่งคุณแม่เป็นคนมีวินัยสูงถ้าได้ทานธัญพืชสูตรปรุงพิเศษตั้งแต่ตอนนั้นอาจมีอาการเป็นปกติไปนานแล้วก็ได้

เรื่องราวที่เล่ามานั้นต้องขอชมคุณแม่ของคุณสุนันท์มากว่าท่านเป็นคนที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวมากคนหนึ่งในการรับการรักษาที่รุนแรงหนักหน่วงทั้งๆที่อายุก็ 80 ปีแล้ว แต่อย่างว่านะครับทำอย่างไรก็ไม่สามารถหยุดมะเร็งได้ด้วยวิธีเคมีบำบัด เพราะทุกครั้งที่สารเคมีพยายามเข้าไปกำจัดเซลล์มะเร็งจะต้องมีกลุ่มเซลล์มะเร็งที่ตายไป เพราะฤทธิ์ของเคมีนั้นๆ กับกลุ่มเซลล์มะเร็งที่สามารถเอาตัวรอดหลบหนีไปได้เสมอ และกลุ่มมะเร็งที่รอดไปได้ก็จะซ่องสุมพลังให้แข็งแรงเพื่อเตรียมกลับมาแก้แค้นครั้งใหม่เสมอครับ ดังนั้นวิธีการรักษามะเร็งโดยเคมีบำบัด ฉายรังสี หรือผ่าตัดก็จะทำให้เกิดการหลบหนีของเซลล์มะเร็งทุกครั้งไม่มากก็น้อย เล่นเอาเถิดกันไปเรื่อยๆจนกว่าคนไข้ทนการรักษาไม่ไหวก็จบกัน หรือมะเร็งกลับมาแก้แค้นกับอวัยวะสำคัญโดยใช้อวัยวะนั้นเป็นทั้งอาหารและที่อาศัยของมัน ในที่สุดก็ยึดอวัยวะนั้นได้ทั้งหมดจนคนไข้ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่มะเร็งมันหารู้ไม่ว่าเมื่อคนไข้ไม่อยู่แล้วตัวมันก็ต้องตายเหมือนกัน ดังนั้น การแก้แค้นจึงไม่ใช่สิ่งที่ควรทำไม่ว่ามะเร็งหรือคนด้วยกันเองเพราะแพ้ทั้งคู่เสมอตามกฎธรรมชาติ

วิธีการดูแลผู้ป่วยมะเร็งของผมไม่ใช้วิธีดังกล่าวข้างต้น แต่ใช้วิธีตามธรรมชาติให้ธรรมชาติจัดการด้วยการสร้างความสมดุลขึ้นในร่างกายด้วยอาหารธัญพืชสูตรปรุงพิเศษของผม โดยหลักการง่ายๆคือสร้างภูมิต้านทานของผู้ป่วยให้มีความแข็งแรงมากขึ้นจนเหนือกว่าอิทธิพลของเซลล์มะเร็งให้ได้ หลังจากนั้นระบบเม็ดเลือดขาวที่แข็งแรงก็จะทำหน้าที่กำจัดเซลล์มะเร็งอย่างง่ายดาย เซลล์มะเร็งจะลดจำนวนลงไปเรื่อยๆและจะไม่มีส่วนไหนของมะเร็งหนีรอดการทำลายล้างของระบบเม็ดเลือดขาวของร่างกายได้เป็นอันขาด ซึ่งแตกต่างกับการรักษาตามแผนปัจจุบันโดยสิ้นเชิงที่มีเซลล์มะเร็งรอดชีวิตได้เสมอ อาหารธัญพืชปรุงพิเศษของผมจะเข้าไปสร้างภูมิต้านทานให้กับคุณแม่คุณโดยตรง ในขณะเดียวกับสารอาหารนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเซลล์มะเร็งน้อยมาก เรียกได้ว่าขณะที่เสริมกำลังภูมิต้านทานให้คุณแม่ก็จะทำหน้าที่ตัดกำลังบำรุงมะเร็งไปพร้อมๆกันด้วยเลย

ทีนี้ในทางปฏิบัติผมอยากให้คุณสุนันท์กับผู้ที่รับผิดชอบดูแลคุณแม่มาคุยกับผมอย่างละเอียด เล่าทุกอย่างให้ผมฟังแล้วผมจะวางแผนให้ จะช้าเกินไปหรือไม่ผมไม่ทราบแต่ตราบใดที่คนไข้ยังมีกำลังใจเต็มร้อยย่อมมีโอกาสเสมอครับ

รีบโทรนัดมาคุยกันได้เลยครับ.....ขอขอบคุณ