ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : โรคตับ เป็นร่วมด้วย กับ เบาหวาน และ ไต จะดูแลอย่างไรดี
ผู้ตั้งคำถาม : กนกวรรณ โพสต์เมื่อ 2/23/2011 : 7:56:31 AM
ตอนนี้ ผู้ป่วย อายุประมาณ 66 ปี เพศชาย เป็นเบาหวาน มา 20 ปี ได้ ตอนนี้ เริ่มมีอาการ บวม ไม่แน่ใจว่าเกิดจากตับและ ไต หรือป่าว แต่ ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา จะพบอาการไม่ปกติ คือ มึนหัว อาเจียน ล่าสุด คือ โพแทสเซียมในตับสูง ต้องขับออก ควรดูแลอย่างไรบ้าง เพราะอายุมาก และ เป็นหลายโรค ขอบคุณค่ะ
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 2/23/2011 : 9:12:36 PM
คนป่วยกำลังเป็นโรคไตนะครับเนื่องจากมีอาการบวมซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากผลข้างเคียงจากยารักษาเบาหวานที่ใช้มานานนับ 10 ปีนั่นเอง ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ไม่ปกติเพราะในความเป็นจริงไม่ควรปล่อยให้การใช้ยาเนิ่นนานจนคนป่วยเกิดโรคแทรกซ้อนกับไตแบบนี้ มันเหมือนกับเป็นทางตันทางการแพทย์ยังไงก็ไม่รู้เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำซากมากเหลือเกินคือเป็นเบาหวานใช้ยานานๆแล้วจบด้วยโรคไตกันมากมาย ทำไมวงการแพทย์ไม่ศึกษาการแก้ปัญหาโรคเบาหวานด้วยหลักโภชนาการให้จริงจังเพราะมันได้ผลจริงๆ น้ำตาลในเลือดลดลงจริงๆเพราะผมทำมา 14 ปีแล้วได้ผลดีทุกราย ไม่เคยพลาดแม้แต่รายเดียวเพราะเมื่อเราสามารถปรับอาหารให้ร่างกายได้สารอาหารที่เหมาะสมเพียงพอและถูกสัดส่วนแล้วร่างกายก็จะรักษาตัวเองได้ครับไม่ต้องพึ่งยามากหรอกเพราะยาจะเป็นสาเหตุที่พาโรคเข้ามาเพิ่มอีกมากมายหลายโรคซึ่งเป็นของแถมที่ไม่มีใครอยากได้

เรื่องมึนหัว อาเจียรก็เป็นอาการข้างเคียงของโรคเหล่านี้เพราะคนป่วยมีคุณภาพหลอดเลือดไม่ดี อาจมีความเครียดจึงมีปัญหากับระบบทางเดินอาหารที่ทำให้อาเจียรก็ได้

การดูแลรักษาแบบของศูนย์ซีเกรนคือคุมอาหารให้ได้ครับแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง โดยคนป่วยต้องให้ความร่วมมือมิฉะนั้นจะไม่ได้ผลเลย จึงขอแนะนำวิธีดูแลดังนี้

1. เปลี่ยนจากข้าวขาวเป็นข้าวกล้อง 100% ห้ามผสมข้าวขาวเพราะข้าวขาวเมื่อย่อยแล้วคือน้ำตาลทั้งหมดร่างกายดูดซึมเร็วด้วยจึงควบคุมระดับน้ำตาลได้ยาก นอกจากนั้นให้งดของหวานทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม แต่ให้เปลี่ยนเป็นแอบเปิ้ลดีที่สุด ทานมากเท่าไหร่ก็ได้ ใช้แทนของหวานหรือขนมได้เลย
2. สั่งธัญพืช "บอดี้คลาส" ของผมไปทานแทนอาหารวันละ 2 มื้อ (เช้าและเย็น) ให้ชงกับนมถั่วเหลือง "ดีน่างาดำชนิดน้ำตาลน้อย" บรรจุกล่องละ 230 ซีซี. ถ้าไม่อิ่มก็ให้ทานแอบเปิ้ลตาม

เพียง 2 ข้อแค่นี้ขอให้ทำอย่างสม่ำเสมออย่าเกเร ภายใน 1 เดือนเจาะเลือดดูน้ำตาลได้เลยว่าลดลงและความจำเป็นในการใช้ยาจะค่อยๆลดลงด้วย ทำให้ผลข้างเคียงของยาที่ไปทำให้เกิดปัญหาที่ไตก็จะลดลงตามไปด้วย อาการมึนหัว อาเจียรและอาการผิดปกติอื่นๆก็จะลดลงทุกอาการ และนี่คือวิธีการฟื้นฟูไตและสุขภาพแบบเป็นองค์รวมด้วยหลักโภชนาการที่ปลอดภัยที่สุดเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดและปฏิบัติง่ายที่สุดแล้ว ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรแล้วครับ....ขอขอบคุณ