จากข้อมูลสุขภาพอันน้อยนิดที่ให้มา พยากรณ์ได้ว่าสุขภาพของคุณกำลังอยู่ในช่วงขาลงที่สามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่สลับซับซ้อนแก้ยากเพราะความเครียดล้วนๆ ตอนนี้อาจไม่ค่อยปรากฎอาการแต่อีกสักประเดี๋ยวปัญหาน่าจะมาเป็นโขยง รับรองงานนี้หมอได้รวยแน่ครับ

จากไขมันคอเลสเตอร์รอลสูงถึง 306.48 และ LDL สูงตามมาที่ 218.86 ในขณะที่ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ปกติที่ 141.76 มันเป็นตัวเลขที่บอกได้ชัดเจนมากว่าคุณเครียด คิดมาก รีบเร่ง สมองไม่เคยพบกับความผ่อนคลายทางอารมณ์เลยใช่ไหมครับ? แต่ยังดีที่ HDL คุณสูง 59.44 จะเป็นตัวช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้บ้างในแง่ช่วยดูแลสุขภาพหลอดเลือดแดงของคุณได้ระดับหนึ่งเพื่อช่วยหัวใจและสมองของคุณไม่ให้แข็งตัว อุดตัน และเสียหายเร็วเสื่อมเร็ว

จากข้อ 2. ก็คงสรุปค่าเอ็นไซมย์ตับ (ซึ่งตรวจไม่ครบ) ได้ว่าคุณอาจมีไขมันเกาะตับด้วย และการทำงานของตับก็ค่อนข้างไม่ดีแต่ยังไม่ถึงจุดแตกหัก

จากข้อ 3. หมายถึงคุณมีภาวะของภูมิแพ้ จามบ่อย ขัดจมูกบ่อย หายใจไม่สะดวก เป็นหวัดได้บ่อยเพราะทางเดินหายใจมักบวม หมายถึงภูมิต้านทานคุณต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เรียกว่าน้องๆภูมิแพ้

ทั้งหมดขอสรุปง่ายๆว่าสุขภาพคุณกำลังแย่ลงทั้งๆที่รู้สึกว่าไม่เห็นแย่ลงเลยก็ได้ในขณะนี้ เพราะร่างกายคุณยังรับไหวในขณะที่อารมณ์ในเชิงทำลายสุขภาพของคุณกำลังทำงานเด่น จึงเป็นตัวกระตุ้นให้ตับผลิตคอเลสเตอร์รอลออกมามากจนล้น ส่งผลให้ตับปรับการผลิต LDL ให้สูงตามซึ่งเป็นอันตรายต่อหลอดเลือดแดงโดยตรง วงจรนี้มักเกิดขึ้นกับคนผอมที่ไม่ชอบกินอาหารมันๆก็ได้ด้วยครับ แต่ชอบเครียด ชอบอารมณ์เสีย ขี้โมโห เอาแต่ใจตัวเอง ขี้กลัวขี้ระแวง ไม่ไว้ใจใคร หรือเป็นพวกคนละเอียดไปเสียทุกเรื่องผิดนิดผิดหน่อยไม่ได้ทุกอย่างต้อง perfect อย่างเดียวไม่งั้นโลกจะแตกอะไรทำนองนั้น รวมทั้งปัญหานี้อาจเกิดได้กับผู้ที่ขยันทำงานเกินเหตุชอบเอาวิญญาณเถ้าแก่เข้ามาสิงห์ในร่างตัวเอง วันไหนไม่ทำงานจะหงุดหงิดเหมือนไม่ได้เสพยายังไงยังงั้น ก็ทำให้คอเลสเตอร์รอลสูง LDL สูง แต่ไตรกลีเซอร์ไรด์ต่ำได้ทั้งนั้น

คนไทยส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดอยู่ว่าคอเลสเตอร์รอลสูงเพราะกินเนื้อ ไขมัน หรือเป็นคนกินจุและเป็นเฉพาะคนอ้วนเท่านั้น ในความเป็นจริงไม่ใช่ครับอาหารทำให้คอเลสเตอร์รอลสูงได้เพียง 30% เท่านั้นไม่ว่าคุณจะกินจุแค่ไหน แต่อารมณ์เชิงลบดังกล่าวข้างต้นทั้งหมดมีอิทธิพลทำให้คอเลสเตอร์รอลสูงถึง 70% นะ..จะบอกให้ โดยเฉพาะคุณหมอทั้งหลายชอบฟันธงว่าเป็นเพราะอาหารแต่ไม่เคยพูดให้คนไข้ฟังเกี่ยวกับพิษภัยของอารมณ์เลย เป็นเพราะอะไรผมก็ไม่เข้าใจ! แม้กระทั่งเรื่องการกินไข่ก็แทบจะเถียงกันตายจนถึงทุกวันนี้กับคุณหมอทั้งหลายว่า หมอมักห้ามกินไข่เพราะไข่มีคอเลสเตอร์รอล ซึ่งในทางโภชนาการถูกครึ่งเดียว แต่ความเป็นจริง 100% นั้นบอกว่า ไข่เป็นอาหารชั้นยอดของมนุษย์ทุกเพศทุกวัย ถึงแม้ไข่มีคอเลสเตอร์รอลแต่ไข่ก็มี "เลซิติน" ซึ่งเป็นตัวละลายคอเลสเตอร์รอลในตัวมันเองไม่ให้ร่างกายเกิดไขมันสูง ดังนั้นเมื่อคนเครียดดันไปเชื่อหมอก็จะไม่กินไข่แต่ผอมและเครียดทั้งวันร่างกายก็ขาดสารอาหารที่สำคัญอย่างช่วยไม่ได้และคอเลสเตอร์รอลก็สูงและกินแต่ยาลดไขมัน แต่คนที่เชื่อนักโภชนาการกลับกินไข่ทุกวันซึ่งช่วยให้แข็งแรงโรคภัยมักไม่เบียดเบียนและคอเลสเตอร์รอลไม่เคยสูงเลยทั้งๆที่เป็นคนอ้วนและมีอารมณ์ดี

สำหรับคุณพิสุทธิ์คงต้องแก้ไขและพัฒนาเรื่องอารมณ์เป็นหลักนะครับแล้วปัญหาทุกอย่างจะดีขึ้นเอง อย่าหลงไปกินแต่ยาลดไขมันเพราะมันช่วยคุณได้แค่ 30% เท่านั้น แต่ผลข้างเคียงที่อาจเกิดที่ตับ ไต ของคุณอีกเท่าไหร่ประเมินไม่ได้นะ ขอเอาใจช่วย ถ้าไม่เชื่อเชิญมาพบตัวต่อตัวได้เลยครับ.....ขอขอบคุณ