ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : ผลตรวจเืลือดของคุณพ่อ
ผู้ตั้งคำถาม : บรรณ โพสต์เมื่อ 12/17/2010 : 10:10:11 AM
ผลตรวจเลือดของพ่อเป็นดังนี้ครับ:
- BUN = 18 mg/dL
- Creatinine = 1.15 mg/dL
- Cholesterol (total) = 173 mg/dL
- HDL-Cholesterol = 35 mg/dL
- TG = 112 mg/dL
- SGOT = 21 U/L
- SGPT = 17 U/L
- Potassium = 4.5 mmol/L
คุณพ่อมีหลอดเลือดหัวใจตีบ และ ความดันสูงครับ สูง~165 ซม. น้ำหนัก 65 กก. ผลล่าสุดนี้คุณหมอบอกว่าควรให้ total cholesterol ต่ำกว่า 100 เลยให้ยาลดไขมัน Simvastatin มาทานก่อนนอน 30 mg รวมทั้งยาอื่น ๆ ดังนี้:
- Omeprazole
- Enalapril
- Monolin (Isosorbide-5-Mononitrate)
- Folic acid 5 mg
- Capginvit (Multivitamin)
- Aspirin 81 mg ครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหารเช้าเท่านั้น
- Atenolol 50 mg
- Apolets (Clopidogrel) 75 mg 1 เม็ดหลังอาหารเช้า

ผมให้เขาทานวิตามินรวมซึ่งมีปริมาณมากกว่าปริมาณวิตามินใน Capginvit เลยไม่ได้ให้เขาทานตัว capginvit ที่หมอสั่งให้เพราะเกรงว่าจะทานเยอะเกิน รวมทั้งตอนนี้ให้เขาทาน zegrain pro ซึ่งคือ boday klass (ตามความเข้าใจของผม ไม่ทราบว่าถูกต้องหรือไม่ครับ?) มาได้ซัก 13 วันแล้ว (11 วันก่อนการตรวจเลือด)

รบกวนอาจารย์ช่วยดูผลและขอความเห็นด้วยครับ ตอนนี้หมอได้นัดทำฉีดสีที่ลำคอเพื่อดูการอุดตันของเส้นเลือดใหญ่ที่ลำคอก่อนจะทำบายพาสครับ

ขอบคุณครับ
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 12/17/2010 : 4:54:26 PM
ไม่ทราบว่าคุณพ่อของคุณรักษาที่ไหนเพราะผมค่อนข้างห่วงสิ่งที่คุณหมอสั่ง โดยเฉพาะให้คอเลสเตอร์รอลต่ำกว่า 100 ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แล้วยิ่งให้กิน Simvastatin เพื่อลดไขมันก็ยิ่งไปกันใหญ่เพราะนอกจากจะลดไขมันไม่ได้อย่างที่ต้องการแล้ว ไตของคุณพ่อคุณกำลังจะมีปัญหา (BUN=18, Creatinine=1.15) ซึ่งไม่ควรให้ค่าไตสูงกว่านี้อีกแล้ว และสิ่งหนึ่งที่ไปบั่นทอนทำให้ค่าไตสูงขึ้นอีกก็คือผลข้างเคียงจากฤทธิ์ทางเคมีจากยาที่หมอสั่งนั่นแหละ พูดง่ายๆสั้นๆก็คือยิ่งกินยามากไตจะพังเร็ว แล้วก็ต้องมารักษาโรคไตกันอีก 1 โรค ปัญหาของคุณพ่อคุณจะยิ่งซับซ้อนปวดหัวทรมานคนไข้มากเข้าไปอีก รับรองไม่มีวันจบ

แนวทางที่ผมอยากแนะนำก็คือให้ความสำคัญ 2 อย่างคือ
1. ปรับอาหารที่เหมาะสม และ
2. ออกกำลังกายถูกต้องทุกๆวันอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มไขมัน HDL
เพราะอาหารที่เหมาะสมจะฟื้นฟูระบบการทำงานของร่างกายเพราะเซลล์มีความต้องการอาหารประเภทโปรตีนค่อนข้างมากซึ่งจะช่วยลดอักเสบ ทำให้ระบบภูมิต้านทานแข็งแรงขึ้น ส่วนออกกำลังกายจะได้ประโยชน์ทำให้หลอดเลือดแดงแข็งแรงขึ้น กล้ามเนื้อหัวใจจะแข็งแรงทำงานดีขึ้นด้วย และกล้ามเนื้ออื่นๆก็จะสามารภสร้างพลังงานเพิ่มขึ้นทำให้คุณพ่อคุณมีกำลังมากขึ้นและรู้สึกสดชื่นขึ้นด้วย

ส่วนการอุดตันของหลอดเลือดที่จำเป็นต้องทำบายพาสนั้นเท็จจริงอย่างไรผมคิดว่าขณะนี้คุณหมอก็ยังไม่ทราบแน่ชัดด้วยซ้ำ ดังนั้นอย่าเพิ่งมุ่งประเด็นไปที่การผ่าตัดแล้วจะช่วยแก้ปัญหาได้ ไม่แน่อาจทำให้ทุกอย่างซับซ้อนแก้ยากขึ้นสำหรับในระยะยาวก็ได้ครับ โดยเฉพาะสุขภาพไตของคุณพ่อคุณตอนนี้ไวต่อการใช้ยามากไม่จำเป็นผมไม่อยากให้ท่านกินยาใดๆเลย นอกจากวิตามินเกลือแร่ไม่เป็นไร

ผมไม่รู้ว่าหลอดเลือดของคุณพ่อคุณอุดตันหรือแข็งตัวหรือมีปัญหาตรงไหนอย่างไรเพราะยังไม่เคยทำบายพาส ในความเห็นของผมน่าจะลองใช้วิธีปรับโภชนาการใหม่และออกกำลังกายถูกต้องสม่ำเสมอซึ่งต้องทำอย่างเป็นระบบกันสักระยะหนึ่งก่อนดีไหม แล้วตรวจสุขภาพเป็นระยะว่าร่างกายมีการตอบสนองที่ดีขึ้นหรือไม่ ถ้าแข็งแรงขึ้นผลตรวจเลือดก็ดีขึ้น ผมว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทำบายพาสแต่อย่างใดเพราะผมเคยเห็นคนไข้โรคหัวใจมีอาการหนักกว่านี้มาก เขารักษาตัวเองด้วยการปรับอาหารให้เหมาะสม ออกกำลังกายอย่างถูกต้องเหมาะสมและสม่ำเสมอร่วมกับใช้วิตามิน เกลือแร่ และสารพฤกษเคมี ไม่กี่เดือนก็วิ่งได้หายจากอาการของหัวใจและไม่ต้องใช้ยาะไรเลยด้วยซ้ำ

ผมคิดว่าให้คุณพ่อคุณทานอาหารธัญพืชของผมซึ่งคุณเข้าใจถูกแล้ว ให้ได้วันละ 2 ซอง กินอาหารอ่อนที่ย่อยง่าย ลดเนื้อสัตว์ของปิ้ง-ทอด-ย่าง นอกจากปลาทานได้ เสริมด้วยวิตามินซี 1000 มิลลิกรัม/วัน วิตามินบีรวม เกลือแร่และสารพฤกษเคมี น้ำมันปลา (Fish oil)วันละ 1000 mg. แอสไพริน 300 mg.วันละ 1 เม็ดหลังอาหารแค่นี้พอแล้ว และที่สำคัญให้ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมทุกๆวัน (โทรมาปรึกษาผมได้) สุดท้ายก็ดูแลให้ท่านมีกำลังใจอย่าให้เครียด ทำประมาณ 3 เดือนแล้วมาวัดผลทางร่างกายและตรวจเลือดกันใหม่ ถ้าผลออกมาดีก็บอกได้เลยว่ายาและการผ่าตัดเป็นเรื่องที่ควรเอาไว้ก่อนและอาจไม่จำเป็น

ส่วนเรื่องผลตรวจขอวิเคราะห์ให้ดังนี้ครับ
- ค่าของไต (BUN, Creatinine) อย่างที่บอกคือไม่ควรให้สูงมากกว่านี้อีกแล้ว ด้วยการงดกินอาหารรสจัด โปรตีนจากเนื้อสัตว์(ยกเว้นปลา) งดอาหาร fast food ทุกชนิด รวมทั้งอาหารปรุงแต่งสี กลิ่น รสให้ดูน่ากินก็ควรงด ทานธัญพืชของผมแทนอาหารวันละ 2 ซองชงกับนมถั่วเหลืองดีที่สุด แล้วเสริมด้วยอาหารเสริมอย่างที่แนะนำข้างต้น ดื่มน้ำมากขึ้นเท่านี้ก็พอ แล้วเรามาคอยติดตามดูการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นกันต่อไป ไม่เกิน 3 เดือน
- Total Cholesterol 173 ถือว่า OK แล้วครับ ไม่ต้องไปกังวลเรื่องไขมันตัวนี้
- HDL 35 ต่ำเกินไป แสดงว่าคุณพ่อคุณไม่ออกกำลังกายเลยหรือออกน้อยเกินไป ไม่ได้นะครับต้องจัดเวลาและสถานที่ให้ท่านออกกำลังกายอย่างเบาๆแต่จริงจัง เช่นเดินเร็วเท่าที่ท่านจะเดินได้ (ไม่ต้องไม่เทียบกันที่คนอื่นเดิน) แต่ต้องเดินให้ครบ 30 นาทีสัปดาห์ละ 5 วัน แรกอาจได้แค่ 15 นาทีแต่ต้องเดินทุกวันแล้วค่อยเพิ่มเวลาขึ้นไปเรื่อยตามกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้นจนเดินครบ 30 นาที และถ้าครบแล้วร่างกายดีขึ้นจะเดินนานกว่านี้เร็วกว่านี้ก็ยิ่งดี
- TG คือไขมัน Triglyceride อยู่ในระดับที่ต่ำด้วยซ้ำ แสดงว่าคุณพ่อคงมีการคุมอาหารกันมาก่อนด้วยการกินข้าวน้อยลงและจำกัดอาหารอื่นด้วยใช่ไหมครับ ดีครับแต่ไม่พอ ให้คุณพ่อคุณทาข้าวกล้องแต่ให้ทานจนอิ่มไม่ต้องทานอดๆอยากๆแล้วดูแลกับข้าวให้เป็นอาหารไทยๆที่มีรสอ่อนทั่วไปแค่นี้ก็ OK แล้ว น้ำหนักตัวอาจเพิ่มได้สัก 1-2 กก.แต่อย่าให้มากกว่านี้เพราะผมไม่ต้องการให้ร่างกายท่านเริ่มสะสมไขมัน
- SGOT, SGPT เป็นค่าตรวจเอนซัยม์ของตับ ปกติดีครับ
- Potassium ก็ปกติดีแสดงว่าหมอคงอยากดูผลกระทบที่มีต่อการเต้นของหัวใจ และสมดุลของโซเดี่ยม ซึ่งเป็นการดูแบบคร่าวๆเท่านั้น สรุปอะไรไม่ได้ครับ

ถ้าผลตรวจเลือดทั้งหมดมีแค่นี้แล้วทำให้คุณหมอวินิจฉัยว่าอาจต้องทำบายพาสเพราะเป็นโรคหัวใจ ผมว่ามันเกินไป เพราะถ้าให้ผมสรุปผลเลือดอย่างที่ให้มาทั้งหมดผมต้องบอกว่าคุณพ่อคุณแข็งแรงและมีสุขภาพดีครับ.....ขอขอบคุณ