ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : ไวตามิน K
ผู้ตั้งคำถาม : ว่าน โพสต์เมื่อ 9/14/2010 : 12:05:30 PM
อาจารย์คะ อยากเรียนถามว่า ไวตามิน K คืออะไรและจำเป็นกับร่างกายมากแค่ไหน
คือ มีผู้หวังดี ซื้อ แคลเซียมผสมไวตามิน K มาให้คุณพ่อรับประทาน
และคุณพ่อเป็นโรคตับ ไวรัสบีแบบ พาหะ แต่ตอนนี้โรคตับไม่ active
เลยอยากทราบน่ะค่ะ ว่าไวตามิน K จะมีผลต่อตับหรือไม่และจำเป็นอย่างไร

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 9/14/2010 : 5:48:15 PM
วิตามินK มีความสำคัญเกี่ยวกับการทำให้เลือดแข็งตัวได้ดีในกรณีเกิดบาดแผลควบคุมการเต้นของหัวใจให้ปกติ และทำงานร่วมกับกรดอะมิโนโดยเฉพาะ Glutamic acid เพื่อดูแลการซ่อมสร้างส่วนที่จำเป็นของอวัยวะต่างๆ วิตามินK มาจาก 3 แหล่ง ดังนี้
1. มาจากอาหารประเภทผักใบเขียวเข้ม เมล็ดพืช ธัญพืชทั่วไป ผลไม้ที่อยู่ในแถบทะเลทรายก็ให้วิตามินK เยอะ นอกจากนั้นก็พบในเครื่องในสัตว์บ้างแต่ปริมาณไม่มาก
2. เกิดจากการสร้างของแบคทีเรียที่เป็นเชื้อประจำถิ่น (Normal Flora) ในลำไส้ใหญ่ตอนต้น แต่สามารถผลิตวิตามินK ได้ไม่มาก
3. สังเคราะห์ได้จากขบวนการทางเคมี

วิตามินK ร่างกายต้องการไม่มาก (แต่ขาดไม่ได้) ดังนั้นทางที่ดีควรรับวิตามินK จากการบริโภคผักผลไม้เป็นดีที่สุด และผมไม่แนะนำให้ทานวิตามินK เป็นอาหารเสริมหรือร่วมกับอาหารเสริมอื่น เพราะเนื่องจากร่างกายต้องการเพียงนิดเดียวแต่ถ้าเกิดบริโภคเกินขนาดเพียงเล็กน้อยจะเป็นพิษต่อร่างกายโดยเฉพาะตับทันที ดังนั้นที่มีผู้หวังดีซื้อแคลเซี่ยมผสมวิตามินK มาให้นั้น ผมว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงเกินไปไม่ควรทาน และไม่ควรนำไปให้ผู้อื่นทานต่อด้วย

มีคำเตือนว่าผู้ที่กินยาละลายเลือด โดยเฉพาะผู้ที่เคยผ่านการผ่าตัดหัวใจ หรือเปลี่ยนอวัยวะอะไรก็ตาม ห้ามกินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินK เด็ดขาดเพราะมันจะไปฆ่าฤทธิ์ของยาละลายเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวและอุดตันได้ง่าย

ส่วนคุณพ่อที่เป็นไวรัสบีแบบพาหะนั้นอยากให้บำรุงและเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการบริโภควิตามินซีวันละ 1000 มก. (ชนิด Bio C) ร่วมกับวิตามินบีรวมเป็นประจำ บริโภคอาหารที่ย่อยง่ายโดยมีโปรตีนเพียงพอ โดยเฉพาะดูแลเรื่องอารมณ์อย่าให้เครียด ไม่ควรออกกำลังกายมากเกินไปและโรคนี้ห้ามนอนดึกด้วยครับ.....ขอขอบคุณ