ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : วิตามินกับตับ
ผู้ตั้งคำถาม : คุณ เอ โพสต์เมื่อ 6/12/2010 : 6:07:21 PM
เรียนถามอาจารย์ว่าทำไมการกินวิตามินซี/บี/น้ำมันปลาและสมุนไพรที่อาจารย์แนะนำ(แบล็กมอร์)ไม่เป็นอันตรายกับตับไม่เหมือนยาถ้าทานนานนานจะทำให้ตับมีปัญหาได้ครับ และถ้าทานอย่างละ 3 เม็ดต่อวัน(สมุนไพรของอาจารย์ 9 เม็ด/วัน)นานประมาณ1 ปีมาแล้วจะเป็นอย่างไรบ้างครับ?ทานซีเกรมโปรด้วย1-2ซองต่อวันหรือมีผลกับอวัยวะอื่น ๆ หรือเปล่าเช่นปลายประสาทต่าง ๆ,หรือต่อมไร้ท่อ
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 6/13/2010 : 12:21:46 PM
การทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือแม้กระทั่งอาหารอย่างซีเกรนนั้นจะมีผลเสียต่อตับอย่างไรหรือไม่ต้องดูที่ความเป็นธรรมชาติของสิ่งที่ทานเข้าไป ถ้าคุณทานสิ่งที่เป็นธรรมชาติหมายถึงวัตถุดิบทำจากสารธรรมชาติล้วนๆในปริมาณที่เหมาะสมซึ่งอาจจะผ่านการคำนวณอย่างถูกต้องมาแล้ว หรือมีความเป็นธรรมชาติในตัวของมันเองที่ผ่านการพิสูจน์มาอย่างช้านานเช่นยาแผนโบราณดีๆที่กระทรวงสาธารณสุขยอมรับหรือประกาศเป็นทางการว่าทานได้อย่างปลอดภัย หรือถ้าสมัยใหม่ขึ้นมาหน่อยก็คือพวกวิตามิน เกลือแร่และสารพฤกษเคมี (Phyto Chemical) ซึ่งเขาสกัดมาจากสารตั้งต้นที่เป็นสัตว์หรือพืชจริงๆและผ่านงานวิจัยและทดลองมาจนทั่วโลกยอมรับ ถ้าเป็นสารอาหารอย่างที่ผมกล่าวมาทั้งหมดนี้คุณเอสามารถซื้อทานได้ด้วยความสบายใจว่าไม่เป็นอันตรายต่อตับ ไต อย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงมันกลับช่วยพยุงหรือบำรุงตับ ไต ของคุณให้แข็งแรงขึ้นด้วยซ้ำแต่ราคาอาจจะแพงสักหน่อยก็อย่าไปเสียดายมันเลยเพราะมันให้ประโยชน์ที่คุ้มค่าจริงๆ เพียงแต่ต้องรู้จักเลือกผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน เกลือแร่ น้ำมันปลา ฯลฯ นะครับ

ทีนี้มาดูส่วนที่เป็นยาซึ่งส่วนใหญ่ยาแผนปัจจุบันจะผลิตมาจากธรรมชาติส่วนหนึ่งและจากสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้นส่วนหนึ่ง ยาประเภทนี้เกือบ 100% ถ้าทานต่อเนื่องเป็นเวลานานจะให้ผลเสียต่อตับ ไต และอวัยวะอื่นๆทั้งนั้นไม่มากก็น้อย ต่อให้หมอบอกว่าปลอดภัยเพราะเป็นยานอกนั้นก็ไม่เป็นความจริง จะเป็นยานอก ยาในที่มีราคาแพงขนาดไหนล้วนมีอันรายแฝงอยู่ทั้งนั้นถ้าทานต่อเนื่องนานๆ เช่นยาลดน้ำตาล ยาเพิ่มประสิทธิภาพของตับอ่อน ยาพวกนี้จะสั่งให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานทานกันมากและให้ทานต่อเนื่องกันนานๆนับ 10 ปีทีเดียว หรืออย่างยาลดความดัน ยาขับปัสสาวะก็เช่นเดียวกันทานกันนานๆคนไข้ก็ได้โรคที่เพิ่มขึ้น เช่น โรคตับ โรคไตทั้งนั้น

สำหรับสิ่งที่ผมแนะนำคือวิตามินซี บีรวม น้ำมันปลา รวมทั้งธัญพืชซีเกรนนั้นล้วนเป็นอาหารเสริม และอาหารที่สามารถทานต่อเนื่องได้ตลอดชีวิตหรือต่อเนื่องกันเป็น 10 ปีโดยแทนที่จะมีผลเสียต่อร่างกายดังกล่าวแต่มันกลับเป็นผลดีด้วยซ้ำต่ออวัยวะทั้งตับ ไต ระบบประสาท ระบบต่อมไร้ท่อ และทุกอวัยวะในร่างกายให้มีความแข็งแรงสมบูรณ์มากขึ้นครับ (สำหรับวิมุติเทวา ถ้าคุณมีน้ำหนักตัวเกิน 70 กก. ให้ทานครั้งละ 3 เม็ด ทาน 2 ครั้งต่อวัน ถ้ามีน้ำหนักตัวต่ำกว่า 70 กก. ให้ทานวันละ 2 ครั้งๆละ 2 เม็ดก็พอ)

เรื่องการทานอาหารหรืออาหารเสริมเพื่อให้มีสุขภาพดี และหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพล้วนเป็นเรื่องที่ต้องหาความรู้ใส่ตัวกันอย่างกว้างขวางเพราะปัจจุบันมีสินค้าประเภทเหล่านี้นับพันนับหมื่นชนิดที่แข่งขันอยู่ในตลาดทั่วโลก ซึ่งบางส่วนเป็นของปลอม บางส่วนหลอกลวงประชาชน รวมทั้งมีของแท้ของจริงที่คุณภาพดีๆปนเปผสมกันอยู่ในตลาด ดังนั้นผู้บริโภคจึงต้องอาศัยผู้ที่รู้จริงเป็นผู้ให้คำแนะนำที่ถูกต้อง ใครมีผู้ที่รู้ไม่จริงและคอยหาโอกาสล้วงกระเป๋าเอาสตางค์จากผู้บริโภคอย่างเดียวก็เป็นเรื่องที่น่าดาย แต่ถ้าผู้บริโภคคนใดได้ผู้ที่มีความรู้จริงคอยแนะนำบอกกล่าวแต่ในสิ่งที่ถูกต้องก็ถือว่าโชคดีมีบุญไป

ผมถึงบอกอยู่เสมอว่าในสิ่งแวดล้อมปัจจุบันที่มีมลภาวะมากมายนั้นคนในยุคสมัยนี้มีความจำเป็นต้องทานอาหารเสริมกันทุกคนนะครับ แต่ต้องรู้จักทานเท่าที่จำเป็น ซึ่งศูนย์ซีเกรนเป็นผู้หนึ่งที่จะเป็นที่ปรึกษาให้ท่านทานอย่างถูกต้องปลอดภัย ได้ประโยชน์เต็มที่และประหยัดเงินไปพร้อมๆกันครับ....ขอขอบคุณ