การกล่างอ้างว่าดื่มน้ำที่เป็นด่างจะเป็นการล้างพิษนั้นไม่ถูกต้องครับ เพราะการที่ร่างกายจะล้างพิษได้ดีตับต้องแข็งแรงด้วยการมีโภชนาการที่สมดุลเป็นพื้นฐานก่อนเสมอ

การดื่มน้ำที่มีฤทธิ์เป็นด่างนั้นดีกว่าดื่มน้ำที่เป็นกลางหรือมีฤทธิ์เป็นกรด เพราะค่าความป็นกรด-ด่าง (pH) ของร่างกายคนเรามีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน (7.3-7.4) ถ้าดื่มน้ำที่มีความเป็นด่างที่ 7.3-7.4 จะทำให้ร่างกายสมดุลได้ดี แต่ถ้าดื่มน้ำที่เป็นกลาง (7) หรือเป็นกรดอ่อน(ต่ำกว่า 7) ร่างกายจะต้องใช้พลังานมากทีเดียวเพื่อปรับค่า pH ให้กลับมาเป็นอ่างอ่อนดังเดิม และช่วงที่ร่างกายใช้พลังงานมากเพื่อปรับความเป็นด่างนี้เองอาจทำให้ระบบการทำงานในร่างกายมีปัญหาได้ ซึ่งไม่มีใครในวงการแพทย์หรือนักสาธารณสุขขั้นเทพที่ไหนตอบได้ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น แต่ที่รู้แน่ๆคือไม่ดีต่อสุขภาพมาก และถ้าผู้นั้นป่วยอยู่แล้วยังชี้ชวนให้ร่างกายมีฤทธิ์เป็นกรดอยู่เรื่อยๆ เช่น กินเนื้อสัตว์ ชอบอาหารรสเปรี้ยว ติดรสหวาน ชอบกินแป้งชนิดขัดขาว ฯลฯ ก็จะทำให้อาการป่วยหายยากหรือกลับลุกลามใหญ่โตได้ง่าย อย่างเช่นคนที่เป็นมะเร็งเป็นต้น

ดังนั้น ควรที่จะชักนำให้ร่างกายอยู่ในความป็นด่างอ่อนเสมอจะปลอดภัยกว่า คืออย่ากินของที่ผมกล่าวแล้วข้างต้น และหันมากินธัญพืชให้มากหน่อยเพราะธัญพืชที่อบสุกมีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนอยู่แล้ว จึงทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว อย่างป่วยเป็นมะเร็งการวางแผนเรื่องโภชนาการตามสูตรของศูนย์ซีเกรนทำให้คนเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจายหายขาดมาแล้วหลายท่านครับ

ส่วนน้ำดื่มที่มีฤทธิ์เป็นด่างก็ถือว่าใช้ได้ แต่ต้องดูรายละเอียดด้วยว่าน้ำนั้นมีเกลือแร่ตรงตามมาตรฐานของทางราชการหรือไม่ ถ้าเป็นน้ำที่ผ่านการกรองแบบ reverse osmosis (RO) ก็ควรเลี่ยงเพราะการกรองแบบ RO จะไม่มีเกลือแร่และสารสำคัญที่ร่างกายต้องการเลยแม้แต่น้อย และถ้าเขากล่าวอ้างว่าเกลือแร่และสารสำคัญนั้นสามารถได้จากอาหารก็พอแล้ว คำตอบคือผิดครับ เพราะเกลือแร่บางชนิดที่ร่างกายจะนำไปใช้ได้ต้องอยู่ในรูปที่ผสมอยู่ในของเหลวเท่านั้น เช่น ฟลูออไรด์ เพราะประจุไฟฟ้าในตัวมันจะทำงานเป็นประโยชน์ได้ดีที่สุดต้องเกาะอยู่กับโมเลกุลของน้ำที่ดื่มเข้าไปเท่านั้น ซึ่งเมื่อร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้แล้วก็จะต้องมีขั้นต่อไปคือ ต้องทำปฏิกริยาได้ดีกับแคลเซี่ยม โปแตสเซี่ยม แมกนีเซี่ยม ฯลฯ เพื่อเข้าวงจรการสร้างกระดูก ฟัน เม็ดเลือดแดง เยื่อหุ้มเซลล์ต่างๆ

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทั้ง ฟลูออไรด์ แคลเซี่ยม แมกนีเซี่ยม ฯลฯ ร่างกายจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ก็ต่อเมื่อต้องอยู่ใน form ที่เหมาะสมเสียก่อน มิฉะนั้นจะสูญเปล่าหมดเลย การสร้างกระดูก ฟัน เม็ดเลือด และเซลล์ที่แข็งแรงก็จะเป็นไปไม่ได้

เรื่องโภชนาการมดุล การกินวิตามินเกลือแร่ที่เหมาะสมและเท่าที่จำเป็น รวมทั้งการดื่มน้ำที่เหมาะสมถือเป็นเรื่องสำคัญทั้งสิ้นครับ....ขอขอบคุณ