ซีเกรนจัดเป็นอาหารสุขภาพเหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพทุกเพศทุกวัย เราทานเพื่อให้สุขภาพแข็งแรงโดยการสร้างสมดุลทางโภชนาการซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากครับ ใครสามารถสร้างสมดุลทางโภชนาการให้กับตัวเองได้ถือว่าเป็นผู้ได้เปรียบทางสุขภาพเพราะเป็นแนวทางเพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้ทุกโรคอย่างดีที่สุด (ยกเว้นโรคทรัพย์จางเพียงโรคเดียว) เป็นการปฏิบัติตัวตามธรรมชาติอย่างแท้จริง แล้วเราจะสามารถสร้างสมดุลทางโภชนาการให้กับตนเองได้อย่างไร? คำตอบคือยากมาก นอกเสียจากจะสามารถปรุงอาหารให้ได้สารอาหารที่ร่างกายต้องการอย่างพอดีทุกมื้อ ไม่มีส่วนขาดและไม่มีสารอาหารส่วนเกิน โดยทางทฤษฎีนั้นเป็นไปได้ แต่ทางปฏิบัติไม่มีใครทำได้หรอกครับถึงแม้จะเป็นนักโภชนาการเองก็เถอะ (เอาหัวเป็นประกัน)

นี่เองจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับซีเกรน เลยลงมือค้นคว้า คำนวณ ทดลองผลิต ทดลองบริโภคจนมั่นใจว่าเราได้อาหารที่สมดุลจริงๆและก็เผยแพร่อย่างได้ผลเป็นที่น่าพอใจมา 12 ปีแล้วครับคุณวิมล

การทานซีเกรนนั้นเห็นผลดีทุกคนครับ แต่มีข้อแม้ 2 ข้อคือ
1. ต้องทานสม่ำเสมอตามที่เรากำหนด
2. ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของเราอย่างตั้งใจจริงๆ
ผมยังไม่เคยเห็นท่านใดที่ทานซีเกรนอย่างที่บอกใน 2 ข้อแล้วไม่เห็นผลดีเลยแม้แต่คนเดียว

จะต้องทานกี่กล่องนั้นบอกไม่ได้เพราะขึ้นอยู่กับพื้นฐานสุขภาพของแต่ละคน แต่พอแยกได้เป็น 2 กรณีคือ
1. ในผู้ที่มีสุขภาพดี ตั้งใจทานเพื่อรักษาสุขภาพและป้องกันการเจ็บป่วย การทานแทนอาหารวันละ 1-2 มื้อใน 3 เดือนแรกอาจไม่เห็นผลแตกต่างจากเดิม แต่เมื่อทานไปเรื่อยๆจะค่อยๆปรากฎผลดีในแง่ต่างๆทีละน้อยและเริ่มมั่นใจคุณภาพของซีเกรนมากขึ้น และทานติดต่อกันจนทุกวันนี้
2. ผู้ป่วย ไม่ว่าป่วยมากหรือป่วยน้อย ขอบอกเลยว่าเริ่มเห็นผลว่าเข้าท่าดีก็ใน 1 สัปดาห์แรกแล้ว รู้สึกว่าเบาเนื้อเบาตัว สบายตัวมากขึ้นแต่อาการของโรคอาจยังอยู่ ผ่านไป 1 เดือนอาการของโรคเริ่มลดลง และเมื่อทานไปเรื่อยๆอาการของโรคจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนในที่สุดก็สามารถหยุดยาได้ อย่างนี้เป็นต้น แต่ต้องไม่ลืมว่าต้องปฏิบัติตามที่ซีเกรนแนะนำอย่างเคร่งครัดนะครับ

นี่คือสิ่งพิสูจน์ว่าซีเกรนอยู่มาได้ 12 ปีแล้วโดยไม่เคยโฆษณาอวดอ้างสรพคุณเลยก็เพราะมีท่านที่เอาไปทานแล้วได้ผลดี จึงนำสิ่งประทับใจไปบอกต่อๆกันนั่นเอง เลยกลายเป็นการขยายตัวของผู้บริโภคไปโดยปริยายครับ....ขอขอบคุณ