ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : เบาหวาน 250
ผู้ตั้งคำถาม : คุณ เอ โพสต์เมื่อ 9/23/2009 : 1:22:39 PM
คุณแม่อายุ70ปีมีอาการเบาหวานขึ้นสูงเมื่อปลายเดือนสิงหาคมเบาหวาน495และพักอยู่ไอซียู 5 วัน ปัจจุบันวัดได้ 250 อาการปัจจุบันเดินไม่ค่อยมีแรง หวิวๆ คล้ายจะเป็นลม ไปพบหมอบอกอาการคล้ายน้ำในหูไม่เท่ากันให้ยามาทานเพิ่มจากยาเบาหวานที่ทานหลังจากออกจากรพ.มาถึงปัจจุบัน ความดันดีตรวจเลือดไม่มีปัญหาอยากได้ข้อแนะนำจากอาจารย์ครับ ตอนนี้ให้ทานซีเกรนโปรเช้า-เย็น (ท้องผูก 4-5วันถึงถ่าย) นับถือย่างสูง
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 9/23/2009 : 5:31:40 PM
นับว่าโชคดีมากนะครับที่แก้ปัญหาตรงที่น้ำตาลขึ้นถึง 495 จนผ่านพ้นมาด้วยดี ขอให้ระวังเรื่องยาที่แก้อาการน้ำในหูไม่เท่ากันหน่อยนะครับเพราะถ้าทานต่อเนื่องนานๆจะไม่ค่อยดี อีกประการหนึ่งเรื่องที่คุณแม่รู้สึกไม่ค่อยมีแรง หวิวๆคล้ายจะเป็นลมนั้นอาจอยู่ในภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำก็ได้ คุณได้ตรวจน้ำตาลขณะเกิดอาการดังกล่าวหรือเปล่า (คุณมีเครื่องเจาะน้ำตาลปลายนิ้วหรือเปล่า กรณีนี้ผมว่าไม่มีไม่ได้นะครับ ต้องซื้อไว้และเจาะเช็คทุกวันก่อนอาหารเช้าแล้วจดบันทึกไว้ด้วย) ถ้าเกิดอาการหวิวๆคล้ายเป็นลมแล้วเช็คน้ำตาลในเลือดว่าต่ำมากแสดงว่าต้นเหตุไม่ได้มาจากอาการน้ำในหูไม่เท่ากันนะครับ ขอให้ให้ความสำคัญตรงนี้มากๆด้วย

มีคำแนะนำให้กับคุณแม่ดังนี้
1. ทานซีเกรนโปรเป็นอาหารเช้าและเย็นนั้นถูกต้องแล้ว ให้ปฏิบัติต่อไป
2. อาการท้องผูกอาจแก้ไขโดยให้คุณแม่ดื่มน้ำมากขึ้น ทานผักนึ่งที่นิ่มๆมากขึ้น ให้เดินมากขึ้นโดยเฉพาะเวลาหลังอาหารทุกมื้อ และควรทานแก้วมังกรเป็นผลไม้หลังอาหารทุกมื้อทั้ง 3 มื้อ ถ้าปฏิบัติได้ครบอาการท้องผูกจะดีขึ้นครับ
3. อาหารกลางวันให้ทานอาหารที่มีคุณค่า โดยเฉพาะข้าวกล้อง ผักน้ำพริก เนื้อปลาเอามานึ่งมะนาวบ้าง อบบ้าง ทอดด้วยน้ำมันรำข้าวบ้าง ควรงดเนื้อสัตว์ต่างๆที่ไม่ใช่เนื้อปลาเพราะย่อยยาก
4. อาหารว่างระหว่างมื้อทั้งหลายควรให้เป็นผลไม้ที่ไม่หวานมากเท่านั้น ที่แนะนำก็ขอให้เป็น ฝรั่ง (สุกก็ได้) แอบเปิ้ล แก้วมังกร(ควรทานประจำ) สาลี่ สตรอเบอรี่ นอกนั้นงดไว้ก่อนก็จะดีมาก
5 ให้คุณแม่ได้เดินมากๆหน่อย หรืออยู่กับที่ยกแข้งยกขา แกว่งแขน แกว่งข้อมือวันละ 15-30 นาทีอย่างต่อเนื่องจะดีมาก
6. ช่วยคุณแม่ให้มีอารมณ์ดี ไม่กังวล ไม่ห่วง ด้วยการผลัดกันมาดูแลเอาอกเอาใจอย่าให้ขาด ยิ่มแย้มแจ่มใสกันทั้งครอบครัวจะช่วยให้หายป่วยเร็วขึ้น
7. ถ้าปฏิบัติทั้ง 6 ข้อได้ดีขอแนะนำทิ้งท้ายว่าถ้าเจาะน้ำตาลตอนก่อนอาหารเช้าวันใดแล้วค่าน้ำตาลต่ำกว่า 100 ขอให้วันนั้นไม่ต้องใช้ยาเบาหวาน แสดงว่าร่างกายตอบสนองการควบคุมอาหารในทางที่ดี ตับอ่อนสามารถผลิตอินซูลินได้ดีขึ้น ความจำเป็นในการใช้ยาก็ลดลง (ใช้นานๆจะไม่ดีต่อตับและไต)

ขอให้ประสบผลสำเร็จ มีอะไรข้องใจโทรมาคุยดีกว่าครับ....ขอขอบคุณ