ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : ขอคำแนะนำ
ผู้ตั้งคำถาม : สุรีย์ บางกรวย โพสต์เมื่อ 4/1/2009 : 3:42:08 PM
อายุ 61 ปี เป็นไขมันสูง ความดัน วัดได้ครั้งล่าสุดเมื่อ 22 มีค.129/89 แต่ทานยาลดความดัน มื้อเช้า 2 เม็ด มื้อเย็น 1 เม็ด และทานยาลดไขมันด้วย เดิมทานซีเกรนมาตลอด หลังจากหมดแล้วหลายเดือนมาไม่ได้ทาน แต่ไม่อยากทานยาเลย เกรงว่าทานไปนานจะอันตราย แต่ได้ติดตามข้อมูลของอาจารย์มาตลอด จึงขอคำแนะนำว่าอยากจะทาน ซีเกรนโปรและวิมุต จะทานอย่างไร ขอคำแนะนำด้วย และตั้งใจว่าจะไปตรวจสุขภาพแล้วจะมาให้อาจารย์ดู และจะมาคุยกันใหม่ ขอบคุณค่ะ
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 4/1/2009 : 5:59:44 PM
ยาลดความดันกับยาลดไขมันทำให้เกิดผลข้างเคียงคือสุขภาพตับและไตจะเสื่อมลงเร็ว คุณสุรีย์คิดถูกแล้วที่ไม่อยากทานยา แต่ยังปฏิบัติไม่ได้เพราะยังทานยาอยู่เป็นปกติ และที่น่าเสียดายคือหยุดทานซีเกรนไปแล้วก็ยิ่งทำให้เกิดความไม่สมดุลทางโภชนาการกับสุขภาพอีก อาการป่วยจึงยังแก้ไขไม่ได้

ลองเริ่มต้นใหม่อีกครั้งอย่างตั้งใจและต่อเนื่องประมาณ 1-2 เดือนนะครับ

1. ทานซีเกรนโปรแทนอาหารมื้อเช้า 1 ซอง และทานแทนอาหารเย็นอีก 1 ซอง รวมเป็นทาน 2 ซอง/วัน สำหรับอาหารมื้อเที่ยงให้ทานตามปกติ

2. ระมัดระวังของว่างและเครื่องดื่ม ขอแนะนำให้เป็นเครื่องดื่มประเภทสมุนไพร และผลไม้สดเป็นอาหารว่างแทนขนมหรือของหวาน

3. ทานวิมุติเทวาครั้งละ 3 เม็ดหลังซีเกรนโปรตอนเช้า และอีก 3 เม็ดหลังซีเกรนโปรตอนเย็น

4. ควบคุมไขมันด้วยการควบคุมความเครียดด้วยครับ เพราะความเครียดเป็นต้นเหตุของไขมันคอเลสเตอร์รอล 70% ส่วนอาหารเป็นต้นเหตุของคอเลสเตอร์รอลเพียง 30% เท่านั้น ดังนั้นขอให้ให้ความสำคัญต่ออารมณ์มากกว่าอาหารเพื่อลดไขมันในเส้นเลือดครับ

ปฏิบัติให้ได้อย่างที่แนะนำทั้ง 4 ข้อติดต่อกัน 1-2 เดือน ผมมั่นใจว่าทั้งไขมันและความดันจะลดลงไม่มากก็น้อย และอาจไม่มีความจำเป็นต้องกินยาอีกต่อไปครับ...ขอขอบคุณ