ขอแนะนำเรื่องการตัดถุงน้ำดีก่อนว่าต้องปรับการบริโภคอาหารใหม่ให้สอดคล้องกับน้ำดีที่ไหลออกมาโดยไม่มีที่เก็บกักเหมือนก่อน ก็โดยให้บริโภคอาหารทีละน้อยๆ หรือมื้อละน้อยๆโดยไม่ต้องบริโภคจนอิ่ม เอาแค่รู้สึกสบายคลายความหิวแล้วก็หยุด เหตุผลก็เพราะน้ำดีของคุณนั้นมันไหลออกมาตลอดเวลาแต่ไหลไม่มาก ดังนั้นควรบริโภคอาหารให้น้อยแต่บริโภคบ่อยๆเพื่อให้สอดคล้องกับน้ำดีที่ไหลน้อย การย่อยจะได้ย่อยได้หมดท้องจะได้ไม่อืดหรืออืดไม่มาก

กรณีติ่งเนื้อนั้นเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่มีอายุมาก ยิ่งอายุมากติ่งเนื้อก็ยิ่งมีมากและก้อนใหญ่ขึ้นได้ด้วย ถ้าคุณหมวยไล่ตัดออกให้หมดทุกติ่งผมคิดว่าคุณต้องเข้าออกโรงพยาบาลปีละหลายๆครั้ง (น่าเบื่อแย่เลย) และคงตัองเสียค่าใช้จ่ายปีละเป็นหมื่น ผมขอให้ความเห็นว่าถ้าอยากเอาออกก็ให้เอาออกเฉพาะก้อนที่คุณไม่ชอบหน้ามันมากที่สุดก็พอ ส่วนติ่งเล็กติ่งน้อยโดยเฉพาะที่ขึ้นใต้ร่มผ้านั้นไม่ต้องเอาออกก็ได้ครับมันคงไม่กลายเป็นเนื้อร้ายได้ง่ายๆ เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่คนอายุมากการกำหนดการแบ่งเซลล์ใหม่เกิดการผิดพลาดได้มากกว่าวัยหนุ่มสาว และติ่งเนื้อหลายติ่งก็อาจเป็นก้อนไขมันด้วยซ้ำซึ่งไม่มีอันตรายอะไรมาก

การเกิดติ่งเนื้อบางครั้งมันเป็นกรรมพันธุ์ด้วยครับ อันนี้เลี่ยงไม่ได้แน่ บางคนเป็นติ่งเนื้อ เป็นปาน เป็นก้อนไขมัน เป็นฝ้า ก็เพราะพ่อแม่เราเป็นมาก่อน อันนี้อย่าไปหนักใจ ถือว่าเป็นเครื่องหมายการค้าประจำตระกูลของคุณก็แล้วกัน

แต่ถ้าเป็นติ่งของริดสีดวงนั้นมันเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องดูแลรักษา ถ้าเป็นมากควรผ่าตัดเอาออกนะครับจะได้หายขาด ขืนเก็บไว้เดี๋ยวมันจะลามไปเป็นอย่างอื่น

การทานของแสลงแล้วทำให้เกิดบวมแดงนั้นแสดงว่าบริเวณนั้นเกิดการอักเสบครับ การแก้ไขก็คืออย่ากินสิ่งนั้นอีกเพราะร่างกายคุณกำลังปฏิเสธเนื่องจากสะสมสารบางตัวจากอาหารนั้นๆมากเกินไปแล้ว ทำให้เกิดการขับออกหรือต่อต้านชนิดรุนแรงเลยทำให้บวมแดงอักเสบได้ อาจเรียกภาวะนี้ว่ามีการสะสมสารพิษมากเกินไปก็ได้

ทั้งหมดนี้ผมเพียงอยากบอกว่าการปรับสมดุลทางโภชนาการให้เป็น เป็นเรื่องสำคัญที่สุด กินอาหารให้ถูกส่วนถูกปริมาณและถูกเวลา อาการผิดปกติทั้งหลายก็จะทุเลาลงไปเอง แต่บางคนไปเข้าใจว่ากินของชอบไปก่อนแล้วใช้ยาหรือสมุนไพรแก้ไขทีหลัง ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่ควรทำครับ....ขอขอบคุณ