ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : เนื้อชาโคนขาขวา
ผู้ตั้งคำถาม : สราลักษณ์ โพสต์เมื่อ 2/12/2009 : 8:42:04 PM
ผมขอเรียนปรึกษาอาการเนื้อชาตรงบริเวณโคนขาขวาด้านนอก บางครั้งจะมีอาการเจ็บแบบโดนเข็มแทงด้วย
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 2/13/2009 : 12:23:01 PM
เป็นลักษณะของปลายประสาทอักเสบซึ่งมีได้หลายสาเหตุ เช่น
1. มีเลือดเข้าไปเลี้ยงบริเวณที่เจ็บไม่เพียงพอ หรือระบบการไหลเวียนของเลือดไม่ค่อยสมบูรณ์
2. มีเลือดไปเลี้ยงในบริเวณเส้นประสาทส่วนปลายน้อยเกินไป
3. การไหลเวียนของน้ำเหลืองและคุณภาพของน้ำเหลืองอาจไม่ดีด้วย รวมทั้งต่อมน้ำเหลืองอาจมีสารพิษหรือเชื้อโรคสะสมอยู่มากก็ได้
4. หรืออาจเป็นเพราะคุณมีระดับไขมันในเส้นเลือดสูงก็สามารถทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้เช่นเดียวกัน
5. หรือเป็นเพราะร่างกายคุณสะสมสารพิษไว้มากและนานโดยไม่ทราบสาเหตุก็เป็นได้นะครับ

เรื่องนี้ตรวจสอบหาสาเหตุค่อนข้างยาก แต่อยากจะแนะนำให้ลองปฏิบัติดังนี้ แล้วดูว่าอาการดังกล่าวหายหรือไม่
1. บีบนวดบริเวณที่เจ็บด้วยน้ำมันที่ใช้นวดทั่วไป คลึงเบาๆและทำบ่อยๆเพื่อให้เลือดไหลเวีนดี และทำให้น้ำเหลืองไหลเวียนดีด้วย
2. ควบคุมไขมันในเส้นเลือดอย่าให้เกินมาตรฐาน รวมทั้งควบคุมน้ำหนักตัวด้วยนะครับ
3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
4. กระตุ้นการทำงานของไตด้วยการดื่มน้ำมากขึ้นและบ่อยขึ้น เพราะอาการอย่างนี้อาจเป็นเพราะไตไม่แข็งแรงก็ได้ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนมีเหงื่อน้อยและมีกลิ่นตัวค่อนข้างชัดเจน ควรบำรุงไตด้วยผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร "วิมุติเทวา" ตำรับบำรุงสุข เป็นเม็ดแคปซูลของซีเกรนครับ แต่ถ้าคุณไม่มีอาการดังกล่าวก็ตัดเรื่องปัญหาของไตทิ้งไปได้

อีกกรณีหนึ่งที่ควรระวังคือการเป็นโรคงูสวัดตรงบริเวณดังกล่าว เพราะงูสวัดเกิดจากไวรัสมันกัดทำลายปลายประสาทบริเวณผิวหนังทำให้รู้สึกแสบร้อนและเป็นสีแดงขึ้นที่ผิวบริเวณดังกล่าว ถ้าเป็นมากจะเป็นตุ่มใสและเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนโดนไฟเผา เขาจึงเรียกโรคนี้อีกอย่างหนึ่งว่าโรคไฟลามทุ่ง แต่เข้าใจว่าคุณสราลักษณ์คงไม่ได้เป็นอาการนี้นะครับ เพียงบอกให้ทราบไว้เป็นความรู้เท่านั้น แต่ก็อย่าได้ประมาทก็แล้วกัน....ขอขอบคุณ