การตรวจตับสามารถตรวจที่ รพ.ไหนก็ได้ เพียงให้เป็น รพ.ที่คุณพนิดาคุ้นชื่อหรือมีชื่อเสียงก็เป็นอันใช้ได้ (หมายถึง รพ.ของเอกชนนะครับ)

การตรวจตับสามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับอาการที่เป็น ดังนี้

1. ถ้าปกติดี เพียงแต่อยากเช็คความเรียบร้อยของตับ ก็ใช้วิธีการตรวจเลือดเพื่ออ่านค่า SGOT, SGPT กับตรวจปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งตับคือ AFP ว่ามีแนวโน้มจะเป็นมะเร็งตับหรือไม่ แต่ถ้ามีน้ำหนักตัวเกินมานานก็ควรจะตรวจโดยใช้ อัลตร้าซาวน์เพิ่มด้วยเพราะจะสามารถวิเคราะห์เรื่องไขมันเกาะตับได้ด้วย

2. ถ้าอาการไม่ค่อยปกติ เช่น มีอ่อนเพลีย น้ำหนักตัวลด มีตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องอืดหรือแน่นท้องบ่อยๆ ก็คงต้องตรวจละเอียดกว่าข้อ 1. ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแพทย์และควรเป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางตับโดยตรง ซึ่งผมเชื่อว่า รพ.เอกชนทั่วๆไปแถบทางตะวันออกมีฝีมือดีและมีอุปกรณ์ทันสมัยพอๆกัน

3. อีกกรณีหนึ่งที่อยากให้ตรวจเกี่ยวกับตับคือไวรัสตับอักเสบทั้งชนิด B และ C ด้วยว่ามีการติดเชื้อมากก่อนหรือไม่ ซึ่งบางทีเราไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อมาเรียบร้อยแล้ว
ถ้าเป็นไวรัส B ก็ควรตรวจชุดใหญ่ของไวรัส B คือ HBV Prevaccination
ถ้าเป็นไวรัส C ก็ตรวจการติดเชื้อและภูมิคุ้มกัน
ถ้าจะมาตรวจที่ศูนย์ซีเกรนคุณพนิดาสามารถแวะเวียนมาได้ถ้ามีธุระในกรุงเทพฯทางเรามีตรวจทุกวันอาทิตย์เช้า โดยแนะนำให้ตรวจชุดพื้นฐานร่วมด้วย สนใจก็โทรมาจองล่วงหน้า 2-3 วันนะครับจะได้ซักถามข้อข้องใจด้วยตัวเองได้เต็มที่

เรื่องสุขภาพตับถือเป็นเรื่องสำคัญนะครับ อย่าประมาทควรตรวจสุขภาพตับทุกปีอย่างสม่ำเสมอ สิ่งที่น่ากลัวสำหรับตับมากที่สุดก็คงจะเป็น ภาวะมะเร็งตับ ไขมันเกาะตับเรื้อรัง และไวรัสตับอักเสบชนิด C ครับ....ขอขอบคุณ