1. ปลาหมึกแห้ง กุ้งแห้ง ย่อมมีคอเลสเตอรณรอลอยู่ในเนื้อของมันตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของสด หรือตากแห้ง หรืออบแห้งก็ตามปริมาณไขมันคอเลสเตอร์รอลยังคงเท่าเดิมเพราะปริมาณไขมันดังกล่าวมันอยู่ในโมเลกุลของเซลล์กล้ามเนื้อซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเอามันไปตากแห้ง อบแห้ง หรือต้มหรือทอดก็ตาม เพียงแต่กุ้งกับหอยอาจมีระดับไขมันที่ต่างกัน ก็ให้เลือกกินให้ดีๆก็แล้วกัน ส่วนจะเอาสภาพที่แห้งนั้นไปทอดอาจเพิ่มคอเลศเตอร์รอลได้ง่ายซึ่งมาจากน้ำมันที่ใช้ทอดนั่นเอง ยิ่งเอาน้ำมันปาล์มมาทอดปริมาณคอเลสเตอร์รอลก็จะยิ่งสูง ถ้าใช้น้ำมันรำข้าวมาทอดไขมันคอเลสเตอร์รอลก็จะต่ำ ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันที่ใช้ทอดครับ

2. ก็อย่างที่ตอบในข้อ 1. ว่าการตากแห้ง อบแห้งไม่ทำให้ไขมันคอลสเตอร์รอลในเนื้อสัตว์เหล่านั้นลดลงครับ รวมทั้งหมูแดดเดียวหรือเนื้อแดดเดียวก็ทำนองเดียวกัน

3. กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้งมีโปรตีน ส่วนคาร์โบไฮเดรทไม่มี ไขมันชนิดอิ่มตัว (คอเลสเตอร์รอล) มีตามส่วนของชนิดเนื้อสัตว์ถ้าหอยจะมีมาก กุ้งจะน้อยลงมา ส่วนเกลือแร่และวิตามินมีน้อยนอกจากวิตามินบีจะมีบ้างแต่ไม่มาก ส่วนเส้นใยมีน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย ดังนั้นคุณค่าทางอาหารของกุ้ง ปลาหมึกส่วนใหญ่จะเน้นโปรตีนมากที่สุด
ปลาเค็มก็มีโปรตีนเป็นจุดเด่นแต่เนื่องจากเป็นปลาเค็มก็จะมีเกลือโซเดียมสูงมากจึงกินมากไม่ได้คุณค่าทางโภชนาการจึงไม่ค่อยได้อะไร เผลอๆเจอปลาเค็มที่แช่ฟอร์มาลีนด้วยก็อาจซวยได้นะครับ ถึงกับอาเจียนหรือหมดสติได้เลย ดังนั้นการซื้อปลาเค็มอย่าซื้อตามตลาดสด ต้องซื้อในห้างที่แพ็คอย่างดีมีชื่อที่อยู่ผู้ผลิตเรียบร้อยจะปลอดภัยกว่า ผมเคยเจอมาแล้วซื้อปลาเค็มจากตลาดสดเห็นสวยดีราคาก็ถูกแต่พอมาลงกะทะทอดกลิ่มฟอร์มาลีนฉุนขึ้นจมูก รีบเททิ้งแทบไม่ทัน เจ็บใจจริงๆที่โดนหลอก
ส่วนไข่เค็มเห็นจะมีประโยชน์มากหน่อยเพราะคุณค่าจะคงเดิมเหมือนไข่สดทุกประการ ไข่จัดเป็นแหล่งอาหารที่ดีที่สุดของมนุษย์ถึงแม้จะมีคอเลสเตอร์รอลแต่ในไข่ก็มีสารชื่อ "เลซิติน" ซึ่งช่วยลดโทษจากคอเลสเตอร์รอลได้เกือบหมดครับ

สงสัยคุณมณียาคงชอบทานข้าวต้มมาก จึงถามแต่เรื่องกุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง ไข่เค็ม ผมก็คนหนึ่งละครับที่ชอบทานข้าวต้มเป็นที่สุด แต่ต้องขอมีผัดผักรวมมิตร และแกงจับฉ่ายซักถ้วย ก็ OK เลยครับ....ขอขอบคุณ