ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : อยากทราบวิธีการดูแลตับเนื่องจากเป็นไวรัสตับอักเสบบี
ผู้ตั้งคำถาม : ศิรธันย์ โพสต์เมื่อ 9/30/2008 : 2:04:12 PM
อยากทราบวิธีการดูแลตับเนื่องจากเป็นไวรัสตับอักเสบบี
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 9/30/2008 : 7:55:58 PM
ถ้าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแล้วร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นได้เองตามกลไกของธรรมชาติก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเพราะไวรัสไม่สามารถทำอันตรายต่อตับได้เลย เสมือนหนึ่งท่านไม่ได้ติดเชื้อนี้ยังไงยังงั้น

แต่ถ้ากรณีผู้ติดเชื้อไวรัสตัวนี้แล้วร่างกายไม่สร้างภูมิต้านทานขึ้นมา (ซึ่งจำเป็นต้องเจาะเลือดตรวจสถานเดียว) ด้วยเพราะกลไกในระบบร่างกายท่านผิดปกติอันนี้ซิน่าห่วง เพราะเชื้อไวรัสนี้สามารถโจมตีเซลล์ตับให้เสียหายหลายแสน เกิดตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง หรือเป็นมะเร็งตับได้ง่ายกว่าชาวบ้านทั่วไป กรณีนี้คนไข้ต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง ดังนี้
1. ห้ามเครียดเพราะทำให้ภูมิต้านทานปกติก็ไม่ดีอยู่แล้วกลับต่ำลงไปอีก ร่างกายจะอ่อนแอลงแล้วเชื้อไวรัสก็จะรุมกินเซลล์ตับอย่างเมามัน ทำให้เกิดปัญหาโรคตับต่างๆตามที่กล่าวแล้ว
2. ห้ามนอนดึก ห้ามทำงานตรากตรำ ห้ามให้แรงกายมากเกินไป เหตุผลก็เช่นเดียวกับข้อ 1 ครับ
3. พยายามกินอาหารที่ย่อยง่าย ต้องงดดื่มแอลกอฮอล์ตลอดชีวิตอย่างเด็ดขาด ไม่สูบบุหรี่ พยายามกินอาหารที่เป็นธรรมชาติที่ให้สารอาหารจำเป็นอย่างเพียงพอ เรื่องอาหารจานด่วน fast food อาหารพลังงานสูงทั้งหลายงดได้ก็ควรงด
4. เสริมวิตามินซี (ชนิด Bio C) วันละอย่างน้อย 1000 mg. ร่วมกับวิตามินบีรวมด้วย อย่าให้ขาดเลยเชียว เพราะมันจะช่วยพยุงภูมิต้านทานให้แข็งแรงพอสำหรับสู้กับไวรัสได้ในระดับหนึ่ง
5. เดี๋ยวนี้คุณหมอเขามียาต้านไวรัสชนิดนี้ สามารถกดไม่ให้ไวรัสทำอันตรายตับได้ในระดับหนึ่ง เรื่องนี้ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะครับ

ปฏิบัติให้ได้ตามนี้ก็ลดความเสี่ยงต่อโรคตับชนิดต่างๆไปได้เยอะแล้วครับ...ขอขอบคุณ