ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : ยาเม็ด Calcium
ผู้ตั้งคำถาม : 1 โพสต์เมื่อ 9/18/2008 : 10:40:49 AM
กินยาเม็ด Calcium 1000 mg. ทุกวัน
จะมีอันตรายต่อตับ หรือผลข้างเคียงใดหรือไม่
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 9/18/2008 : 7:25:40 PM
แคลเซี่ยมไม่ใช่ยาเม็ดครับแต่ถูกจัดไว้ในหมวดอาหารเสริมชนิดเกลือแร่หรือจะเรียกอีกอย่างว่าแร่ธาตุ (Mineral) ก็ได้เป็นความหมายเดียวกัน

แคลเซี่ยมมีความสำคัญต่อสุขภาพมากเพราะในร่างกายมีแคลเซี่มอยู่ในส่วนประกอบของเซลล์ ในเม็ดเลือด ในกระดูก ในระบบสื่อประสาท ในอวัยวะต่างๆ แม้กระทั่งในเซลล์กล้ามเนื้อก็มีส่วนประกอบของแคลเซี่ยมทั้งนั้น เรียกว่าถ้าร่างกายขาดแคลเซี่ยมก็เป็นอันว่าเกิดเรื่องใหญ่แน่ คนทั่วไปมักเข้าใจและให้ความสำคัญแร่ธาตุแคลเซี่ยมเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับกระดูกเป็นส่วนใหญ่ พยายามกินแคลเซี่ยมเสริมเพื่อให้กระดูกแข็งแรงซึ่งเป็นความเข้าใจที่ถูกเพียงน้อยนิด อันที่จริงเราต้องให้ความสำคัญกับแคลเซี่ยมว่าเกี่ยวข้องกับทุกระบบในร่างกาย ดังนั้นการกินแคลเซี่ยมทุกคนควรสังวรไว้ว่ากินเพื่อเสริมสุขภาพโดยรวมนะครับ ไม่ใช้เพื่อกระดูกอย่างเดียว

การกินแคลเซี่ยมให้ได้ผลดีที่สุดหมายความว่าร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากที่สุดจะต้องประกอบด้วย วิตามินดี วิตามินเค และแมกนีเซี่ยม ขาดตัวใดตัวหนึ่งไม่ได้เพราะถ้าขาดตัวใดตัวหนึ่งขบวนการเอาแคลเซี่ยมไปใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะเอาไปทำอะไรมันก็ไม่สามารถทำได้ เรียกว่ากินแล้วก็สูญเปล่านั่นเอง
- วิตามินดีคงไม่มีปัญหาเพราะบ้านเราแดดมีมาก ตากแดดอ่อนๆวันละ 30 นาทีก็เพียงพอที่ร่างกายจะสร้างวิตามินดีขึ้นเองอย่างเพียงพอ แต่ฝรั่งอาจเสียเปรียบเพราะบางประเทศในแต่ละปีเห็นแดดเพียงไม่กี่วัน เขาจึงต้องกินวิมินดีที่เป็นเม็ดแทนการตากแดด ส่วนคนไทยไม่จำเป็นต้องกินแบบฝรั่งนะครับเสียสตางค์โดยใช่เหตุ
- วิตามินเค ก็ต้องอาศัยการกินผักสีเขียวเข้มทุกชนิดให้ได้วันละอย่างน้อย 1-2 กำมือก็เป็นอันว่าได้วิตามินเคเพียงพอ
- แมกนีเซี่ยม อาจได้จากอาหารทั่วไปโดยเฉพาะธัญพืชนั้นมีมากทีเดียว ใครกินผลิตภัณฑ์อาหารธัญพืชซีเกรนเป็นประจำก็เป็นอันว่าได้แมกนีเซี่ยมเพียงพอแน่นอนครับ แต่ถ้าจะกินแบบเม็ดเสริมเข้าไปพร้อมกับแคลเซี่ยมต้องดูว่าอัตราส่วนระหว่างแคลเซี่ยมกับแมกนีเซี่ยมต้องเป็น 2:1 เสมอนะครับ เพื่อแมกนีเซี่ยมจะได้ควบคุมการใช้ประโยชน์จากแคลเซี่ยมได้อย่างถูกต้องและให้ผลเต็มที่

ขอเตือนว่าใครกินเนื้อสัตว์มากร่างกายจะมีความเป็นกรดสูง ฉนั้นต้องเสริมแคลเซี่ยมให้มากเข้าไว้ แต่ถ้าใครกินผักมากกินเนื้อสัตว์เพียงเล็กน้อยร่างกายจะมีความเป็นด่างมากความต้องการแคลเซี่ยมของร่างกายจะต้องการเพียงเพียงครึ่งหนึ่งของคนที่กินเนื้อสัตว์มากนะครับ ดังนั้นใครกินเนื้อมากระวังอันตรายจะมีมากต่อสุขภาพ

คุณ 1 กินแคลเซี่ยมวันละ 1000 mg ก็ถือว่าใช้ได้ครับ แต่ก็ต้องดูว่าคุณมีอายุเท่าไร เคยวัดมวลกระดูกมาก่อนหรือไม่และอยู่ในระดับไหน เป็นคนที่กินเนื้อสัตว์มากหรือน้อย และที่สำคัญการกินแคลเซี่ยมของคุณ ร่างกายคุณมีวิตามินดี วิตามินเคสะสมเพียงพอไหม และในแคลเซี่ยมที่คุณกินมีปริมาณแมกนีเซี่ยมครึ่งหนึ่งของแคลเซี่ยมหรือไม่ ลองพิจารณาให้ดีด้วยเพื่อประโยชน์สูงสุดในการกินแคลเซี่ยมเพื่อสุขภาพ

กินแคลเซี่ยมอย่างถูกต้องไม่มีผลเสียหรือผลข้างเคียงใดๆต่อตับ แต่ถ้ากินยารักษาโรคแผนปัจจุบันมีผลข้างเคียงแน่นอนไม่มากก็น้อยครับ....ขอขอบคุณ