ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : เลซิติน
ผู้ตั้งคำถาม : น้อย โพสต์เมื่อ 9/8/2008 : 1:56:26 PM
ได้ฟังอาจารย์พูดทางวิทยุตอนเช้าเกี่ยวกับเลซิตินน่าสนใจมากค่ะ พอดีอ่านในweb มีคนบอกว่าทานเลซิตินติดต่อกันนานๆอาจทำให้เลือดออกแล้วหยุดยาก เป็นความจริงแค่ไหนคะ และถ้าทานนำมันปลาอยู่จะทานเลซิตินด้วยได้ไหมคะ
สนใจเลซิตินในเรื่องที่เกี่ยวกับนิ่วในถุงน้ำดีค่ะเพราะเป็นคนที่มีกรดยูริกค่อนข้างสูงประมาณ 6-7 ค่ะและมีไขมันสูงด้วยแต่ทานยาลดไขมันอยู่ค่ะ
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 9/12/2008 : 4:37:00 PM
คงจะไม่ใช่นะครับที่ทานเลซิตินนานๆทำให้เลือดหยุดยาก การที่เลือดหยุดยากนั้นต้องเข้าใจว่าเป็นเพราะเกร็ดเลือดทำงานได้ไม่ดี หน้าที่ที่จะให้เลือดหยุดนั้นคือเกร็ดเลือด+แคลเซี่ยม+โปรตีน+ความเป็นด่างอ่อนของน้ำเลือด ทั้งหมดนี้จะทำปฏิกริยาสมานแผลให้เนื้อเยื่อติดกันแล้วเกิดรอยประสานของแผลที่เรียกว่าสะเก็ด คนที่เป็นแผลแล้วหายช้า แผลฉ่ำอยู่เสมอก็ให้ดูตัวอย่างคนที่เป็นโรคเบาหวานในระยะเรื้อรังจะเห็นว่าเป็นแผลแล้วหายยากก็เนื่องจากองค์ประกอบที่จะทำให้แผลประสานกันจนหายและตกสะเก็ดนั้นมันทำงานไม่ครบ คือเลือดจะมีความเป็นกรดอ่อน (แทนที่จะเป็นด่างอ่อนอย่างคนปกติ) เลยทำให้เกร็ดเลือดทำการสนามแผลเชื่อมให้เนื้อเยื่อติดกันไม่ได้เพราะไม่สามารถทำปฏิกริยากับแคลเซี่ยมและโปรตีนได้สำเร็จนั่นเอง

ทั้งเลซิตินและน้ำมันปลามีส่วนทำให้เลือดมีความใสเพิ่มขึ้นได้ (ลดความหนืดของเลือด) เพราะไปลดการทำงานของเกร็ดเลือดให้น้อยลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่แผลยังสามารถประสารติดกันได้เหมือนเดิมเพราะองค์ประกอบที่จะทำให้เลือดหยุดและประสานเนื้อเยื่อดังที่กล่าวมันยังครบมบูรณ์แต่ไม่ถึงกับทำให้เลือดไหลไม่หยุดนะครับ

ทานเลซิตินกับทานน้ำมันปลาด้วยกันก็ยิ่งดีซิครับ เพราะอาหารเสริม 2 ชนิดนี้เขาให้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน ให้คุณศึกษาคุณสมบัติทั้ง 2 ตัวนี้ให้ดีๆแล้วคุณจะรู้ว่าแตกต่างกันและน่าทานอย่างไร

เลซิตินเหมาะทั้งคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำดี (ที่ยังไม่ได้ตัดถุงน้ำดี) และไขมันสูง แล้วยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมายด้วยครับ....ขอขอบคุณ