ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : เลซิติน
ผู้ตั้งคำถาม : เล็ก โพสต์เมื่อ 9/1/2008 : 2:05:43 PM
เลซิตินชนิดที่เป็น SOFT GELข้างในเป็นเหมือนน้ำมันกับชนิดที่เป็นเม็ดเหมือนเม็ดยา ควรทานอย่างไหนดีกว่ากันคะ
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 9/1/2008 : 7:19:22 PM
ทานชนิดอัดเป็นเม็ดดีกว่าครับ เพราะผมไม่แน่ใจว่าถ้าทานอย่าง soft gel คุณเล็กอาจเจอกับน้ำมันพืชก็ได้ ผมไม่ได้ว่าทุกยี่ห้อที่ผลิตเป็น gel แต่เคยมีประสบการณ์ที่พบว่ามีการบรรจุน้ำมันพืชแล้วบอกว่าเป็นเลซินตินซึ่งถือเป็นการหลอกลวง ผมก็เลยมีทัศนคติที่ไม่ดีกับเลซิตินที่บรรจุเป็นแบบ gel ตั้งแต่นั้นมา แต่ถ้ามั่นใจว่าเป็นของต่างประเทศที่เป็นยี่ห้อดังๆก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คงต้องใช้ไหวพริบและวิจารณญาณในการเลือกซื้อหน่อย ส่วนผมถ้าจะซื้อเลซิตินกินละก็ขอเลือกแบบอัดเม็ดไว้ก่อน และผมก็มีบริษัทผู้ผลิตที่อยู่ในดวงใจผมไว้แล้ว

เลซิติน มีประโยชน์อย่างไร
เลซิตินเป็นสารธรรมชาติที่ประกอบด้วยฟอสฟอรัสกับไขมันบางชนิด และวิตามินในกลุ่มวิตามินบี ไม่สำคัญว่าเลซิตินประกอบด้วยสารใดบ้างแต่สิ่งสำคัญคือเลซิตินเป็นหน่วยพื้นฐานในทุกๆเซลล์ของสิ่งมีชีวิต ที่สำคัญไปกว่านี้ก็คือเลซิตินนั้นช่วยจับไขมันและคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ด้วยคุณสมบัติอันน่ามหัศจรรย์ของเลซิติน คือ การที่เลซิตินสามารถละลายได้ทั้งในน้ำและในไขมัน เลซิตินจึงละลายอยู่ในกระแสเลือดแล้วคอยจับเอาไขมัน หรือคอเลสเตอรอลที่ล่องลอยอิสระในกระแสเลือดและไขมันที่เกาะตามผนังหลอดเลือดไว้ ด้วยวิธีนี้ของเลซิตินจึงทำความสะอาดระบบหมุนเวียนโลหิตได้ดีมาก ส่วนประกอบที่พบมากที่สุดในเลซิตินคือ สารฟอสฟาติดิลโคลีน (phosphatidylcholine) ซึ่งเป็นแหล่งที่มีความสำคัญคือเป็นวัตถุดิบในการผลิตสารสื่อประสาทในสมองของเรา สารดังกล่าวคือ อะเซทิลโคลีน (Acetylcholine)

แหล่งอาหาร: เลซิตินสามารถพบได้ในอาหารหลากชนิดจากผลิตภัณฑ์ทั้งพืชและสัตว์ เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพด เมล็ดฝ้าย เรพสีด และพืชบางชนิด รวมทั้งไข่แดง นม สมอง ตับ ไตและกล้ามเนื้อ เลซิตินที่ทำจากถั่วเหลืองเป็นผลิตภัณฑ์ที่พบได้ทั่วไปในท้องตลาดมากที่สุด จากรายงานทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่ศึกษาเกี่ยวกับเลซิตินแสดงให้เห็นว่า เลซิตินเหมาะสำหรับเสริมสุขภาพหัวใจ สมอง และตับ

เลซิตินมีประโยชน์สำหรับลดระดับคอเลสเตอรอสในกระแสเลือด นิ่วในถุงน้ำดี การพัฒนาสมอง ระบบภูมิคุ้มกัน ลดความดันโลหิต

อาการเมื่อขาด: เมื่อกล่าวถึงเลซิตินนั่นหมายถึงสารฟอสฟาติดิลโคลีนซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเลซิติน แม้จะยังไม่เคยมีรายงานถึงการขาดเลซิติน แต่งานศึกษาบางชิ้นพบว่า ถ้าร่างกายมีระดับของโคลีนที่ต่ำจะก่อให้เกิดความดันโลหิตสูงชนิดถาวรและมีปัญหาเกี่ยวกับไตด้วย

ขนาดรับประทาน: ขนาดรับประทานที่แนะนำเพื่อบำรุงสมองคือ 1,200 -2,400 มิลลิกรัม ถ้ารับประทานเพื่อลดระดับคอเลสเตอรอสในกระแสเลือดต้องได้รับวันละ2,400 -3,600 มิลลิกรัม และบางทีต้องเพิ่มขนาดรับประทานถึงวันละ 10 กรัมทีเดียวเพื่อเพิ่มปริมาณของเลซิตินในน้ำดีและรักษาอาการนิ่ว

ผลข้างเคียง: จากประสบการณ์ของหลายๆท่านที่รับประทานเลซิตินปริมาณหลายกรัมต่อวันพบว่า มีปัญหาบ้างเกี่ยวกับความอึดอัดในช่องท้อง หรือคลื่นไส้ และปัญหาที่พบในกรณีบริโภคโคลีนมากจนเกินไปคือ การมีกลิ่นตัวคล้ายกลิ่นคาวปลาแต่ก็ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพใดๆทั้งสิ้นครับ สบายใจได้....ขอขอบคุณ