ทานชนิดอัดเป็นเม็ดดีกว่าครับ เพราะผมไม่แน่ใจว่าถ้าทานอย่าง soft gel คุณเล็กอาจเจอกับน้ำมันพืชก็ได้ ผมไม่ได้ว่าทุกยี่ห้อที่ผลิตเป็น gel แต่เคยมีประสบการณ์ที่พบว่ามีการบรรจุน้ำมันพืชแล้วบอกว่าเป็นเลซินตินซึ่งถือเป็นการหลอกลวง ผมก็เลยมีทัศนคติที่ไม่ดีกับเลซิตินที่บรรจุเป็นแบบ gel ตั้งแต่นั้นมา แต่ถ้ามั่นใจว่าเป็นของต่างประเทศที่เป็นยี่ห้อดังๆก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คงต้องใช้ไหวพริบและวิจารณญาณในการเลือกซื้อหน่อย ส่วนผมถ้าจะซื้อเลซิตินกินละก็ขอเลือกแบบอัดเม็ดไว้ก่อน และผมก็มีบริษัทผู้ผลิตที่อยู่ในดวงใจผมไว้แล้ว
เลซิติน มีประโยชน์อย่างไร
เลซิตินเป็นสารธรรมชาติที่ประกอบด้วยฟอสฟอรัสกับไขมันบางชนิด และวิตามินในกลุ่มวิตามินบี ไม่สำคัญว่าเลซิตินประกอบด้วยสารใดบ้างแต่สิ่งสำคัญคือเลซิตินเป็นหน่วยพื้นฐานในทุกๆเซลล์ของสิ่งมีชีวิต ที่สำคัญไปกว่านี้ก็คือเลซิตินนั้นช่วยจับไขมันและคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ด้วยคุณสมบัติอันน่ามหัศจรรย์ของเลซิติน คือ การที่เลซิตินสามารถละลายได้ทั้งในน้ำและในไขมัน เลซิตินจึงละลายอยู่ในกระแสเลือดแล้วคอยจับเอาไขมัน หรือคอเลสเตอรอลที่ล่องลอยอิสระในกระแสเลือดและไขมันที่เกาะตามผนังหลอดเลือดไว้ ด้วยวิธีนี้ของเลซิตินจึงทำความสะอาดระบบหมุนเวียนโลหิตได้ดีมาก ส่วนประกอบที่พบมากที่สุดในเลซิตินคือ สารฟอสฟาติดิลโคลีน (phosphatidylcholine) ซึ่งเป็นแหล่งที่มีความสำคัญคือเป็นวัตถุดิบในการผลิตสารสื่อประสาทในสมองของเรา สารดังกล่าวคือ อะเซทิลโคลีน (Acetylcholine)
แหล่งอาหาร: เลซิตินสามารถพบได้ในอาหารหลากชนิดจากผลิตภัณฑ์ทั้งพืชและสัตว์ เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพด เมล็ดฝ้าย เรพสีด และพืชบางชนิด รวมทั้งไข่แดง นม สมอง ตับ ไตและกล้ามเนื้อ เลซิตินที่ทำจากถั่วเหลืองเป็นผลิตภัณฑ์ที่พบได้ทั่วไปในท้องตลาดมากที่สุด จากรายงานทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่ศึกษาเกี่ยวกับเลซิตินแสดงให้เห็นว่า เลซิตินเหมาะสำหรับเสริมสุขภาพหัวใจ สมอง และตับ
เลซิตินมีประโยชน์สำหรับลดระดับคอเลสเตอรอสในกระแสเลือด นิ่วในถุงน้ำดี การพัฒนาสมอง ระบบภูมิคุ้มกัน ลดความดันโลหิต
อาการเมื่อขาด: เมื่อกล่าวถึงเลซิตินนั่นหมายถึงสารฟอสฟาติดิลโคลีนซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเลซิติน แม้จะยังไม่เคยมีรายงานถึงการขาดเลซิติน แต่งานศึกษาบางชิ้นพบว่า ถ้าร่างกายมีระดับของโคลีนที่ต่ำจะก่อให้เกิดความดันโลหิตสูงชนิดถาวรและมีปัญหาเกี่ยวกับไตด้วย
ขนาดรับประทาน: ขนาดรับประทานที่แนะนำเพื่อบำรุงสมองคือ 1,200 -2,400 มิลลิกรัม ถ้ารับประทานเพื่อลดระดับคอเลสเตอรอสในกระแสเลือดต้องได้รับวันละ2,400 -3,600 มิลลิกรัม และบางทีต้องเพิ่มขนาดรับประทานถึงวันละ 10 กรัมทีเดียวเพื่อเพิ่มปริมาณของเลซิตินในน้ำดีและรักษาอาการนิ่ว
ผลข้างเคียง: จากประสบการณ์ของหลายๆท่านที่รับประทานเลซิตินปริมาณหลายกรัมต่อวันพบว่า มีปัญหาบ้างเกี่ยวกับความอึดอัดในช่องท้อง หรือคลื่นไส้ และปัญหาที่พบในกรณีบริโภคโคลีนมากจนเกินไปคือ การมีกลิ่นตัวคล้ายกลิ่นคาวปลาแต่ก็ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพใดๆทั้งสิ้นครับ สบายใจได้....ขอขอบคุณ
|