ความรู้โภชนาการรักษามะเร็ง เบาหวาน ความดันสูง ไขมันสูง  
 

พบกับโฉมใหม่ของข้อมูลสุขภาพที่จะนำท่านเข้าสู่การบำบัดโรคด้วยตนเอง ตามแผนโภชนาการของเรา ที่ www.zegrain.co.th

โรคมะเร็ง ทุกระยะ โรคเบาหวาน เรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคไขมันสูง โรคความดันสูง น้ำหนักตัวเกิน(โรคอ้วน) โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารหรือทางเดินหายใจ โรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โรคตับชนิดต่างๆ โรคไต โรคไทรอยด์ ฯลฯ รวมทั้งโรคแห่งความเสื่อมอีกหลาย 10 โรค

go to zegrain.co.th

 
 
 
 
ชื่อคำถาม : มือชา ควรทำอย่างไรดีคะ
ผู้ตั้งคำถาม : Ice โพสต์เมื่อ 8/26/2008 : 5:58:44 PM
หลานชายอายุประมาณ 29 ปี ชาตามนิ้วมือ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะยืนลวกก๋วยเตี๋ยว
นานหรือเพราะความเครียด ขอคำชี้แนะด้วยคะ
ขอบพระคุณมากคะ
ให้ซีเกรนอยู่คู่กับคนไทยไปนานๆนะคะ
 
 
 
 
 
ผู้ตอบคำถาม : ณัฐวัฒน์ โพสต์เมื่อ 8/26/2008 : 9:12:42 PM
อาการชาตามนิ้วมือเพราะเลือดไปเลี้ยงไม่ถึงนั่นเอง ต้องดูว่าอะไรคือต้นเหตุที่เลือดไปเลี้ยงนิ้วมือไม่เพียงพอ ดังนี้

1. เป็นคนอ้วนหรือไม่ ถ้าอ้วนก็อาจทำให้เกิดอาการชาได้เนื่องจากปัญหาคุณภาพหลอดเลือด อาจมีไขมันสูงไปอุดตันทางเดินของเลือดที่ลงไปเลี้ยงแขนทำให้แขนและนิ้วมือชาได้

2. ถึงแม้ว่าเป็นคนผอมแต่มีความเครียดเรื้อรัง เครียดง่าย หรือเครียดอยู่เสมอ ก็ทำให้หลอดเลือดเกิดบีบตัวได้บ่อยทุกครั้งที่เครียด เลือดจึงไหลเวียนไม่คล่องตัวก็ทำให้เกิดอาการชาได้เหมือนกัน

3. หรืออาจเป็นเพราะระบบเส้นประสาทอาจเกิดการถูกบีบถูกเบียดบางจุดประกอบกับความเครียดด้วย จึงทำให้เลือดหล่อเลี้ยงเส้นประสาทที่ปลายนิ้วน้อยเกินไปก็ทำให้ชาได้เหมือนกัน

คนที่ยืนขายก๋วยเตี๋ยวนานๆผมเห็นมาหลายคนแล้วว่าเมื่ออายุมากขึ้นมักเป็นโรคเส้นเลือดขอดที่ขา บางคนเป็นมากจนต้องตัดขาทิ้งไปก็ไม่น้อยนะครับ ดังนั้นการทำงานในอิริยาบทเดียวนานๆ เช่นยืนนานๆ นั่งนานๆ นอนนานๆ เป็นผลเสียต่อสุขภาพทั้งสิ้น สำหรับหลานชายของคุณที่เกิดปัญหานี้ขอแนะนำว่าให้นั่งพักเป็นระยะๆ ยิ่งเอนหลังนอนสักพักแล้วค่อยลุกขึ้นทำงานต่อได้จะยิ่งดี เพราะเลือดจะได้ไหลเวียนได้ทั่วถึงกว่าการยืนนานๆหรือยืนทั้งวัน

ในเวลากลางคืนลองนอนโดยมีอะไรหนุนปลายเท้าให้สูงเท่าระดับหัวไหล่เพื่อให้เลือดที่วนเวียนอยู่ตามมือตามขามาทั้งวันให้ไหลเวียนไปที่สมองบ้างที่ตับบ้างก็จะดีมาก เพราะเลือดที่วนเวียนอยู่ในอวัยวะส่วนล่างนานๆจะมีสารพิษสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าให้ไหลผ่านตับในท่านอนอย่างที่แนะนำ สารพิษเหล่านั้นก็จะถูกฟอกทิ้งที่ตับได้มากนั่นเอง ลองทำดูแล้วจะรู้สึกว่าดี เพราะบางทีเราอาจมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยๆที่สำคัญไปก็ได้นะครับ....ขอขอบคุณ